ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 เมษายน 2553 - 25 เมษายน 2553
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-42 องศาเซลเซียส โดยช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ช่วงวันที่ 24-25 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรตรวจสอบผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง โดยเฉพาะกิ่งที่รับน้ำหนักมาก เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยว เพื่อลดความเสียหายจากสภาพอากาศดังกล่าว นอกจากนี้ในบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักสำรองน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส โดยช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และช่วงวันที่ 23-25 เม.ย.มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายกับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรตรวจสอบและซ่อมแซมโรงเรือนให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ตลอดจนต้นไม้ใหญ่เมื่อมีลมแรง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเตรียมน้ำดื่มให้แก่สัตว์เลี้ยงให้เพียงพอ รวมทั้งจัดทำร่มเงาให้สัตว์ได้หลบอาศัย เพื่อป้องกันสัตว์เครียดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไป
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส โดยช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ และช่วงวันที่ 23-25 เม.ย.มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะฝนฟ้าคะนอง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรปรับอุณหภูมิและสภาพน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนเกินไป เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน เครียด จนอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส โดยช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และช่วงวันที่ 23-25 เม.ย.มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้อยู่ในสภาพแข็งแรงมั่นคง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง สำหรับสวนพริกไทยที่อยู่ในที่ลุ่ม ชาวสวนควรเตรียมระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่าโคนเน่าได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส โดยช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และในช่วงวันที่ 24-25 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ส่วนทางฝั่งตะวันตกอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาคเกือบตลอดช่วง เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ชาวสวนไม้ผลควรจัดเตรียมระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในบริเวณโคนต้นพืช ส่วนทางตอนบนและฝั่งตะวันออกของภาคปริมาณฝนมีน้อยอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำจนชะงักการเจริญเติบโตและลำต้นแคระแกร็น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74