ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 28 เมษายน 2553 - 04 พฤษภาคม 2553
ภาคเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28-29 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 30 เม.ย. — 4 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตชาวสวนควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง ในช่วงนี้อากาศแปรปรวนเกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับบริเวณที่อากาศร้อนจัดผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวกและจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ถึงกระจายตลอดช่วง เกษตรกรควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรง ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยวและแล้วไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งเพราะจะเปียกชื้นเสียหายได้ นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศแปรปรวน
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28-29 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 30 เม.ย. — 4 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูง ขณะเกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อนและมีแสงแดดจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรปรับปริมาณน้ำเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิน้ำในบ่อไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและติดเชื้อโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 28-29 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30 เม.ย. — 4 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตชาวสวนควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง รวมทั้งควรระวังและป้องกันการเกิดผลแตกเนื่องจากได้รับน้ำในปริมาณมาก ซึ่งจะทำให้ผลเน่าเสีย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกอาจชะล้างสารพิษจากบริเวณรอบข้างลงสู่บ่อ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง สำหรับไม้ผลโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาคซึ่งอยู่ในระยะผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันผลอ่อนแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74