พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 5 - 11 พฤษภาคม 2553

ข่าวทั่วไป Friday May 7, 2010 14:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 พฤษภาคม 2553 - 11 พฤษภาคม 2553

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-7 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝนสภาพอากาศจะแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำฝนที่ตกในระยะแรก สำหรับผู้ที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรเตรียมพื้นที่เพาะปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อป้องกันน้ำขังในแปลงปลูก จะนำมาซึ่งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในระยะที่พืชเจริญเติบโตในระยะต่อไป

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-7 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่งๆ ถึงกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและตะวันออกของภาค เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อนและย่างเข้าสู่ฤดูฝนสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง เกษตรกร ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่การเกษตร เมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 5-7 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 8-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้ใช้การได้ดี และจัดการระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรยกพื้นคอกให้สูง และดูแลโรงเรือนให้โปร่งไม่อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรมีแผน การอพยพสัตว์ไปไว้ในที่สูงหากเกิดสภาวะน้ำท่วม ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำ อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

มีฟ้าหลัวในตอนกลางวันกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง เว้นแต่ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรง บางแห่ง ในระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีความเปียกชื้นไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรกำจัดผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสีย ตลอดจนเปลือกผลไม้ให้สิ้นซาก ไม่ควรกองสุมหรือปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง อนึ่งผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรรักษาสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและเกิดโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 5-7 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาค เกือบตลอดช่วง เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนโดยภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณฝนมากกว่าทางฝั่งตะวันออก เกษตรกร ควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูกพืชเมื่อมีฝนตกหนักติดต่อกัน สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ กิ่งไม้ หรือหญ้าแห้งบริเวณโคนต้นพืช เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ บริเวณชายฝั่งควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายหากปรับตัวไม่ทัน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ