ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 10 พฤษภาคม 2553 - 16 พฤษภาคม 2553
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากลมกระโชกแรง หลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง ในสภาพอากาศที่ร้อนและมีแดดจัด เกษตรกรหากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และลมกระโชกแรงกับลูกเห็บตกบางแห่ง และในช่วงวันที่ 13-14 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับสิ่งปลูกสร้างและพืชผลทางการเกษตรจากลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก สำหรับถั่วลิสง ข้าวโพด และข้าวนาปรังที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวไม่ควรปล่อยไว้ในแปลงปลูก เพราะอาจได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกในระยะนี้ ส่วนสภาพอากาศที่ร้อน เกษตรกรควรปรับลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เพื่อป้องกันสัตว์เครียดจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยง ส่วนมะม่วงที่เก็บผลผลิตเสร็จแล้ว ควรทำการตัดแต่งกิ่งเพื่อความสมบูรณ์ โดยตัดกิ่งที่เป็นโรคและแมลงทำลายทิ้ง ลดอัตราการคายน้ำ ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา และยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียหายจากลมกระโชกแรงอีกด้วย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 และ15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และลมกระโชกแรงบางแห่ง เว้นแต่ในช่วง 13-14 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ชาวสวนควรค้ำยันกิ่งของไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตให้แข็งแรง เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดจากลมกระโชกแรง สำหรับเกษตรกรที่อาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูกควรขุดลอกบ่อเก็บกักน้ำสามารถรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาในระยะต่อไป
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ระยะนี้ทางตอนบนของภาคแม้จะมีฝนตก แต่ปริมาณยังไม่มาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต ส่วนทางตอนล่างของภาคจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. เกษตรกรทางฝั่งตะวันออกควรกักเก็บน้ำฝนที่ตกไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74