ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 07 มิถุนายน 2553 - 13 มิถุนายน 2553
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคโดยเฉพาะ ในช่วงวันที่ 10 — 13 มิ.ย.ส่วนลิ้นจี่และลำไยที่กำลังให้ผลผลิต อาจเกิดผลแตกและเน่าเนื่องจากฝน ชาวสวนควรหมั่นสำรวจ หากพบควรปลิดทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคลุกลามไปยังผลอื่นๆ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค และในช่วงวันที่ 10-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ระยะนี้สภาพอากาศชื้น อาจมีโรคพืชจากเชื้อราแพร่ระบาดในพืชไร่ ไม้ดอก และพืชผัก เช่น โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม และโรคใบจุด เป็นต้น รวมทั้งการระบาดของหนอนที่กัดกินผลผลิต เกษตรกรควรหมั่นตรวจสอบและกำจัดทิ้ง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค และในช่วงวันที่ 10-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรควรดูแลโรงเรือนที่เลี้ยงสัตว์ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ปล่อยให้สัตว์อยู่ในที่ชื้น เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนเกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 10-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วควรตัดแต่งกิ่ง และทารอยแผลด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งควรกำจัดวัชพืชและดูแลสวนให้โล่งเตียนอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับเกษตรกรบริเวณนอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงที่ฝนทิ้งช่วง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนบนของภาคตลอดช่วง ส่วนฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 10-13มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่มบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เป็นสาเหตุให้รากพืชขาดอากาศหายใจและตายได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่า อนึ่งในช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. ชาวประมงควรเพิ่มความความระมัดระวังในการเดินเรือเนื่องจากคลื่นลมที่แรงขึ้น และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74