ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 22 กันยายน 2553 - 28 กันยายน 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และในช่วงวันที่ 25-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก สำหรับสวนผลไม้ที่ยังมีน้ำท่วมขัง ควรรีบสูบน้ำออก เพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเทลงสู่ดิน ช่วยเร่งให้ต้นไม้ฟื้นตัวเร็ว รวมทั้งป้องกันกำจัดศัตรูพืชเพื่อป้องกันการระบาดภายหลังน้ำลด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 25-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่านคควรระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดโรคไหม้ข้าวระบาด ชาวนาควรเพิ่มความระมัดระวังโรคดังกล่าว
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเตรียมวัสดุสำหรับกั้นขอบบ่อ เพื่อป้องกันน้ำไหลหลากเข้าบ่อเมื่อมีฝนตกหนัก
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 22-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรดูแลเตรียมอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน รวมทั้งจัดเตรียมระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกัน น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่าและโคนเน่า
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง ชาวสวนไม่ควรกองสุมเปลือก และผลที่เน่าเสีย ตลอดจนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวน แต่ควรกำจัดให้ถูกวิธี เพื่อลดแหล่งเพาะพันธุ์ ของศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง สำหรับชาวสวนยางพาราควรดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74