ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับองค์กร “บ. บางจากปิโตรเลียม” เป็น “A-/Stable” จาก “BBB+/Positive”และคงอันดับตราสารหนี้ “บ. สยามดีอาร์” ที่ระดับ “AA/Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday October 12, 2010 07:57 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็น “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันให้เป็นโรงกลั่นแบบซับซ้อน (Complex Refinery) และส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจการตลาดน้ำมันซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นพลังงานทดแทน อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงการได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รวมถึงการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอื่น ๆ อีกทั้งยังพิจารณาถึงความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าการกลั่นด้วย โดยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าหน่วยแตกโมเลกุลชุดใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงกลั่นที่มีอยู่และเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงให้แก่บริษัท และคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้ นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์จะสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่บริษัทซึ่งน่าจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันได้บางส่วน

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบางจากปิโตรเลียมก่อตั้งในปี 2528 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2536 บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันขนาด 120 พันบาร์เรลต่อวัน (KBD) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันด้วย โดยมีสถานีบริการภายใต้เครื่องหมายการค้า “บางจาก” ประมาณ 1,000 แห่ง การเพิ่มทุนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 ทำให้ ปตท. กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 ผู้ถือหุ้นของบริษัทประกอบด้วย ปตท. 28.3% กระทรวงการคลัง 10.6% และส่วนที่เหลืออีก 61.1% ถือโดยนักลงทุนทั่วไป

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทได้ปรับเปลี่ยนเป็นโรงกลั่นแบบซับซ้อนอย่างเต็มรูปแบบหลังจากหน่วยแตกโมเลกุล (Hydro-cracking Unit) เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2552 โดยหน่วยแตกโมเลกุลใหม่นี้จะช่วยให้โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทมีความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบได้หลากหลายชนิดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดหนักและมีปริมาณกำมะถันสูง อีกทั้งยังให้ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบันสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่กลั่นประกอบด้วยน้ำมันดีเซล 53% น้ำมันเบนซิน 18% น้ำมันเตา 15% และน้ำมันอากาศยาน 10% เทียบกับในอดีตก่อนการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันซึ่งมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยน้ำมันดีเซล 36% น้ำมันเบนซิน 15% น้ำมันเตา 33% และน้ำมันอากาศยาน 11% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีค่าการกลั่นพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 5.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และใช้กำลังการกลั่นน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจาก 79.2 KBD ในปี 2552 เป็น 83.4 KBD ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งบริษัทคาดว่าโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทจะมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นจากระดับ 50%-60% ในอดีตเป็น 80% ในอนาคตอันใกล้

ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านธุรกิจการตลาดของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้นจาก 251 ล้านลิตรต่อเดือนในปี 2550 เป็น 324 ล้านลิตรต่อเดือนในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงานระบุว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการของบริษัทลดลง 3% เป็น 191 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งดีกว่าการลดลงของตลาดโดยรวมที่ 5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 บริษัทมียอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยและมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 13.9%

เมื่อรวมผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเข้ากับธุรกิจการตลาดแล้ว บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจำนวน 2,787 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจโดยมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 38.3% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 บริษัทมีแผนการลงทุนสำหรับโครงการใหม่ในระหว่างปี 2553-2556 มูลค่ารวม 6,450 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเบนซินตามมาตรฐาน EURO IV และโครงการปรับปรุงคุณภาพปล่องไอเสียโรงกลั่น (Tail Gas Treatment)

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังประกาศคงอันดับเครดิตระดับ "AA" ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ให้แก่ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 4,000 ล้านบาท (BCP141A) ของบริษัทบางจากปิโตรเลียมซึ่งออกโดย บริษัท สยามดีอาร์ จำกัดด้วย โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงปัจจัยสนับสนุนในรูปของการรับประกันต้นเงินโดยกระทรวงการคลังในการซื้อคืนใบแสดงสิทธิในราคาที่เสนอขายครั้งแรกหากบริษัทบางจากปิโตรเลียมไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดเวลา นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงลักษณะของโครงสร้างธุรกรรมที่คุ้มครองผู้ถือใบแสดงสิทธิและคุณภาพเครดิตของบริษัทอ้างอิงคือบริษัทบางจากปิโตรเลียมด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทบางจากปิโตรเลียมเป็นผลมาจากการรับประกันต้นเงินจากกระทรวงการคลังและคุณภาพเครดิตของบริษัทบางจากปิโตรเลียม — จบ

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                                  เพิ่มเป็น A- จาก BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                                  Stable (คงที่)

บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด (SIAMDR)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BCP141A: ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพของ 	               คงเดิมที่ AA
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มูลค่า 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                                  Stable (คงที่)
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ