บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A” พร้อมทั้งประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันใหม่จำนวน 2 ชุดของธนาคารซึ่งมีมูลค่าวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยคงแนวโน้มที่ “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร ระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี สถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อ และแหล่งรายได้ที่หลากหลาย อันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงระดับความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นของธนาคาร และโอกาสในระยะยาวสำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของธนาคารถูกจำกัดบางส่วนจากความไม่แน่นอนของปัจจัยทางเศรษฐกิจ ตลอดจนภาวะของธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีความเปลี่ยนแปลง การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในธุรกิจสินเชื่อสำหรับธุรกิจทั่วไปและสินเชื่อรายย่อย และเครือข่ายของธนาคารที่มีจำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะยังคงฐานะทางการเงินในระยะปานกลางได้ตามความคาดหมาย และโครงสร้างธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ลงตัวแล้วจะสร้างประโยชน์ให้แก่ธนาคารในแง่ของการขยายการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงิน โดยที่ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผลการดำเนินงานในอดีตที่เป็นที่ยอมรับ และการมีระดับของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบขนาดเล็ก ธนาคารทิสโก้จึงยังมีเครือข่ายสาขาที่จำกัด เมื่อพิจารณาจากขนาดของสินทรัพย์แล้ว ธนาคารจัดอยู่ในอันดับที่ 12 ในบรรดาธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบของไทยทั้ง 14 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 1% ในปี 2549 ในขณะเดียวกัน ธนาคารก็มีส่วนแบ่งทางการตลาด 1.4% เมื่อพิจารณาจากขนาดของเงินให้สินเชื่อ และ 0.7% เมื่อพิจารณาจากขนาดของเงินรับฝาก จากประสบการณ์ในธุรกิจการเงินกว่า 30 ปี ธนาคารสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้ธนาคารสามารถดำรงอยู่ได้ในธุรกิจที่มีระดับการแข่งขันที่รุนแรง ธนาคารได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการใช้มาตรฐานบัญชี IAS39 ในปี 2549 และมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามเกณฑ์ของ BASEL II ในปี 2550 เนื่องจากธนาคารมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี มีระบบการบริหารข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ มีนโยบายด้านบัญชีที่เข้มงวด ตลอดจนมีระดับเงินกองทุนและสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผู้บริหารของธนาคารทิสโก้มีนโยบายที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลและการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม การรวมศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจและระบบการบริหารของกลุ่มก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการควบคุมธุรกิจและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของกลุ่มโดยรวม ในช่วงปี 2549 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ธนาคารได้รับผลกระทบในด้านผลตอบแทนทางการเงิน แต่สิ่งดังกล่าวจะสร้างโอกาสในระยะยาวแก่ธนาคารในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ผลประกอบการในปี 2549 ของธนาคารได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลงและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักคือธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และธุรกิจบริหารเงินกองทุน
ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี 2549 จำนวน 1,546 ล้านบาท ลดลง 14% จาก 1,791 ล้านบาทในปี 2548 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของธนาคารลดลงจาก 2.5% ในปี 2548 เป็น 1.9% ในปี 2549 ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยก็ลดลงเช่นกันจาก 14% เป็น 12% อัตราส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร ณ สิ้นปี 2549 (ผลรวมของสินเชื่อจัดชั้นที่ค้างชำระมากกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว และสินทรัพย์รอการขาย) คิดเป็นเพียง 0.5 เท่าของผลรวมของเงินกองทุนและสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร ซึ่งดีกว่าอัตราส่วนโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1 เท่าสำหรับธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบทั้ง 14 แห่ง ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
-----------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2550 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะยังคงฐานะทางการเงินในระยะปานกลางได้ตามความคาดหมาย และโครงสร้างธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ลงตัวแล้วจะสร้างประโยชน์ให้แก่ธนาคารในแง่ของการขยายการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงิน โดยที่ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผลการดำเนินงานในอดีตที่เป็นที่ยอมรับ และการมีระดับของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบขนาดเล็ก ธนาคารทิสโก้จึงยังมีเครือข่ายสาขาที่จำกัด เมื่อพิจารณาจากขนาดของสินทรัพย์แล้ว ธนาคารจัดอยู่ในอันดับที่ 12 ในบรรดาธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบของไทยทั้ง 14 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 1% ในปี 2549 ในขณะเดียวกัน ธนาคารก็มีส่วนแบ่งทางการตลาด 1.4% เมื่อพิจารณาจากขนาดของเงินให้สินเชื่อ และ 0.7% เมื่อพิจารณาจากขนาดของเงินรับฝาก จากประสบการณ์ในธุรกิจการเงินกว่า 30 ปี ธนาคารสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้ธนาคารสามารถดำรงอยู่ได้ในธุรกิจที่มีระดับการแข่งขันที่รุนแรง ธนาคารได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการใช้มาตรฐานบัญชี IAS39 ในปี 2549 และมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามเกณฑ์ของ BASEL II ในปี 2550 เนื่องจากธนาคารมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี มีระบบการบริหารข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ มีนโยบายด้านบัญชีที่เข้มงวด ตลอดจนมีระดับเงินกองทุนและสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผู้บริหารของธนาคารทิสโก้มีนโยบายที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลและการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม การรวมศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจและระบบการบริหารของกลุ่มก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการควบคุมธุรกิจและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของกลุ่มโดยรวม ในช่วงปี 2549 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ธนาคารได้รับผลกระทบในด้านผลตอบแทนทางการเงิน แต่สิ่งดังกล่าวจะสร้างโอกาสในระยะยาวแก่ธนาคารในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ผลประกอบการในปี 2549 ของธนาคารได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลงและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักคือธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และธุรกิจบริหารเงินกองทุน
ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี 2549 จำนวน 1,546 ล้านบาท ลดลง 14% จาก 1,791 ล้านบาทในปี 2548 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของธนาคารลดลงจาก 2.5% ในปี 2548 เป็น 1.9% ในปี 2549 ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยก็ลดลงเช่นกันจาก 14% เป็น 12% อัตราส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร ณ สิ้นปี 2549 (ผลรวมของสินเชื่อจัดชั้นที่ค้างชำระมากกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว และสินทรัพย์รอการขาย) คิดเป็นเพียง 0.5 เท่าของผลรวมของเงินกองทุนและสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร ซึ่งดีกว่าอัตราส่วนโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1 เท่าสำหรับธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบทั้ง 14 แห่ง ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
-----------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2550 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว