ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ “บ. น้ำตาลมิตรผล” เป็น “A+” จาก “A”แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Friday December 24, 2010 09:34 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด เป็น ระดับ “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของ บริษัทในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและจีน ตลอดจนผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดีขึ้น และความสามารถใน การรักษาอัตราการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่มีการขยายธุรกิจ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงตราสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอม รับเป็นอย่างดี รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาล และการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำตาล นอกจากนี้ การ พิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงความเสี่ยงจากความ ผันผวนของราคาน้ำตาลและปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากลุ่มน้ำตาลมิตรผลจะยัง คงดำรงสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและจีนต่อไป ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจน้ำตาลและกระแส เงินสดที่มีการกระจายตัวทั้งจากธุรกิจน้ำตาลและธุรกิจที่เกี่ยวข้องน่าจะช่วยให้บริษัทสามารถเผชิญกับความผันผวนของราคาน้ำตาล ในตลาดโลกและมาตรการต่าง ๆ ที่มิอาจคาดการณ์ของทางการจีนได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทน้ำตาลมิตรผลก่อตั้งในปี 2489 โดยตระกูลว่องกุศลกิจ ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจ อ้อยและน้ำตาลของประเทศไทยโดยมีตระกูลว่องกุศลกิจถือหุ้นเต็ม 100% ผ่าน บริษัท น้ำตาลมิตรสยาม จำกัด โรงงานน้ำตาล ของเครือมิตรผลในประเทศไทยมี 5 แห่ง โดยมีกำลังการหีบอ้อยรวม 132,500 ตันอ้อยต่อวัน ในปีการผลิต 2552/2553 กลุ่ม มิตรผลยังคงผลิตน้ำตาลได้สูงสุดในประเทศไทยที่ระดับ 1.29 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 18.57% ของปริมาณน้ำตาลทั้งประเทศ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านปริมาณอ้อยในสัดส่วน 18.09% ของปริมาณอ้อยทั้งประเทศ ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มไทยรุ่งเรือง (18.23%) เพียงเล็กน้อย แต่มากกว่ากลุ่มไทยเอกลักษณ์ (13.73%) และกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น (6.42%)

บริษัทน้ำตาลมิตรผลยังขยายธุรกิจไปยังประเทศจีน โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 7 แห่งซึ่ง ผลิตน้ำตาลได้ 954,460 ตันในปีการผลิต 2552/2553 คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 8.91% ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลของโรงงานในประเทศจีนที่ระดับ 125.57 กิโลกรัม (กก.) ต่อตัน อ้อยนับว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของโรงงานในกลุ่มมิตรผลในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ 103.87 กก. ต่อตันอ้อย ในช่วง 9 เดือน แรกของปีการผลิต 2553 รายได้รวมของกลุ่มมิตรผลอยู่ที่ 44,826 ล้านบาท และกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายรวม (EBITDA) อยู่ที่ 11,282 ล้านบาทจากผลของราคาน้ำตาลในประเทศจีนที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก รายได้จาก ธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วน 40.58% ของรายได้รวมของกลุ่ม และคิดเป็น 54.14% ของ EBITDA รวมของกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทยังขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อย ได้แก่ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจ ผลิตเอทานอล ธุรกิจผลิตแผ่นไม้อัด และธุรกิจผลิตกระดาษ โดยปัจจุบันโรงงานเอทานอลของบริษัทในประเทศไทยมีกำลังการผลิต ที่ 600,000 ลิตรต่อวัน อัตราการใช้กำลังการผลิตในช่วง 9 เดือนแรกของปีการผลิต 2553 ลดลงเหลือ 71% จากการขาด แคลนโมลาสซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก อย่างไรก็ตาม EBITDA ของธุรกิจเอทานอลเพิ่มขึ้นจาก 1,815 ล้านบาทในปีการผลิต 2552 เป็น 2,103 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีการผลิต 2553 อันเป็นผลมาจากราคาเอทานอลที่สูงขึ้น

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงผลประกอบการทางการเงินของบริษัทน้ำตาลมิตรผลว่าเข้มแข็งขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของ ปีการผลิต 2553 บริษัทมียอดขายรวม 44,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.56% จากช่วงเดียวกันของปีการผลิต 2552 ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นผลมาจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นของน้ำตาลและเอทานอล อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต่อรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 15.35% ในปีการผลิต 2552 เป็น 25.11% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีการผลิต 2553 บริษัทมีงบลงทุนสำหรับโครงการใหม่ประมาณ 9,000 ล้านบาทในช่วงปีการผลิต 2554-2555 เพื่อใช้ในการขยายกำลัง การผลิตของโรงงานน้ำตาลและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในประเทศ รวมถึงใช้ลงทุนในโรงงานผลิตแผ่นใยไม้อัดความหนา แน่นปานกลางและในบริษัทผลิตน้ำตาลในประเทศออสเตรเลีย โดยบริษัทเตรียมจัดหาเงินทุนเพื่อโครงการดังกล่าวทั้งจากกระแส เงินสดจากการดำเนินงานและจากวงเงินกู้ใหม่ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะยังคง อยู่ในระดับประมาณ 50% ในระหว่างปีการผลิต 2554-2555

ปริมาณผลผลิตอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ในปีการผลิต 2553/2554 ปริมาณผล ผลิตอ้อยของไทยคาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีการผลิตที่ผ่านมา ในขณะที่ปริมาณผลผลิตน้ำตาลของโลกจะขึ้นอยู่กับการผลิตของประเทศ บราซิลและอินเดียเป็นหลัก ราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกในปี 2553 ผันผวนเป็นอย่างมาก โดยลดลงจากจุดสูงสุดที่ 28.94 เซนต์/ปอนด์ในเดือนมกราคม 2553 มาอยู่ที่ 18.07 เซนต์/ปอนด์ในเดือนพฤษภาคม 2553 และปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 35.44 เซนต์/ปอนด์ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ส่วนในประเทศจีนนั้น ราคาน้ำตาลมักเปลี่ยนแปลงไปตามอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งตาม การบริหารจัดการของรัฐบาล โดยราคาน้ำตาลปรับเพิ่มขึ้นจาก 2,746 หยวนต่อตันในเดือนตุลาคม 2551 เป็นมากกว่า 7,000 หยวนต่อตันในเดือนพฤศจิกายน 2553 จากการขาดแคลนอุปทานภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม จากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล จีนในการควบคุมราคาสินค้าและอาหาร รวมทั้งการนำน้ำตาลสำรองของรัฐออกมาจำหน่ายในตลาดทำให้คาดว่าราคาน้ำตาลใน ประเทศจีนจะอ่อนตัวลงจากระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC)
อันดับเครดิตองค์กร: 	                            เพิ่มเป็น A+ จาก A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MPSC116A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554     เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC11OA: หุ้นกู้มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554       เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555     เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC12OA: หุ้นกู้มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555       เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC136A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556     เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC136B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556     เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC13DB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556   เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557     เพิ่มเป็น A+ จาก A
MPSC156A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558     เพิ่มเป็น A+ จาก A

แนวโน้มอันดับเครดิต:	Stable (คงที่)
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บ
ไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่า
ในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอ
แนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือ
ของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะ
อื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิ
ได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควร
ประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิต
นี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ
หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่
ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการ
กระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน
Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ