ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ใหม่ “บ. เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์” ที่ระดับ BBB+” แนวโน้ม “Positive”

ข่าวทั่วไป Tuesday January 25, 2011 13:31 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ชุดปัจจุบันของ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 500 ล้าน บาทที่ระดับ “BBB+” เช่นกัน โดยคุณภาพอันดับเครดิตได้รวมมูลค่าของหุ้นกู้ที่จะเพิ่มขึ้นในวงเงินรวมกันไม่เกิน 1,350 ล้านบาท จากการจำหน่ายหุ้นกู้ 2 ระยะ ได้แก่ หุ้นกู้มูลค่า 850 ล้านบาทที่จำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้วในช่วงกลางเดือนมกราคม 2554 และ หุ้นกู้ชุดใหม่ดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงแนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” ด้วย ทั้งนี้ อันดับเครดิต สะท้อนถึงผลงานในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนตราสินค้าที่ได้รับการยอมรับใน ตลาดทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมในเมือง รวมถึงความยืดหยุ่นในการบริหารงานซึ่งทำให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนา โครงการให้เป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความไม่ แน่นอนทางการเมือง รวมทั้งลักษณะของธุรกิจที่มีความผันผวน และการแข่งขันในการซื้อที่ดินที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในตลาด คอนโดมิเนียมอันเนื่องมาจากความสำเร็จและสัดส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นของโครงการที่ผ่านมา ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับ เพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถรักษาอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่ดีเอาไว้ได้โดยที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนยัง คงอยู่ที่ระดับ 45%-50%

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ก่อตั้งในปี 2533 โดยนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน และนายพิเชษฐ วิภวศุภกร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นรวมกันประมาณ 1 ใน 3 ของบริษัท จุดแข็งด้านการตลาดเป็นผลมาจากการ ที่บริษัทเป็นผู้ริเริ่มและผู้นำในตลาดทาวน์เฮาส์ใจกลางเมือง (บ้านกลางกรุงและบ้านกลางเมือง) ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งทางธุรกิจ สะท้อนถึงความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านตลาดทาวน์เฮ้าส์และรองลงมาคือคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะในย่านกลางเมือง บริษัทแสดงให้ เห็นถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของพฤฒิกรรมผู้บริโภค โดยสินค้า ของบริษัทเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ซื้ออายุน้อย นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญในการเลือกทำเลที่ดีสำหรับพัฒนาโครงการ ในช่วง ก่อนปี 2548 ยอดขายทาวน์เฮ้าส์ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของยอดขายรวม และตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ยอดขาย คอนโดมิเนียมได้กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของบริษัทด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 35% ของยอดขายรวมเป็น 40%- 50% ในช่วงปี 2551-2552

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 บริษัทมีมูลค่าโครงการคงเหลือพร้อมขายประมาณ 21,891 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าของ คอนโดมิเนียม 40% ในขณะที่ทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวมีมูลค่าคิดเป็น 29% และ 31% ตามลำดับ ทั้งนี้ ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยใน โครงการทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท ยอดขายที่ยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ในโครงการคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับ สูงที่ 20,216 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ทั้งหมด (รวมยอดขายที่ยังไม่ได้รับรู้เป็น รายได้และมูลค่าโครงการคงเหลือ) น่าจะช่วยสร้างกระแสรายได้ให้แก่บริษัทในช่วงระหว่างปี 2554-2556 ที่ระดับปีละ ประมาณ 6,500-12,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยสร้างความแน่นอนของกระแสเงินสดในระยะปานกลางและใช้เป็น แหล่งเงินลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต

ทริสเรทติ้งกล่าวว่าบริษัทมีรายได้เกิน 10,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในปี 2552 เป็นรายได้สูงสุดอันดับ 4 ในกลุ่ม บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับรายได้ดังกล่าว เอาไว้ได้ในระยะปานกลางจากการมียอดขายคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้จำนวนมากและการมีสถานะที่แข็งแกร่งในตลาด ทาวน์เฮ้าส์ในเมือง บริษัทได้รับประโยชน์จากมาตรการด้านภาษีของภาครัฐโดยมีอัตราส่วนกำไรในระดับที่น่าพอใจและมั่นคง ทั้ง นี้ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 21.8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 อัตรา ส่วนกำไรที่อยู่ในระดับค่อนข้างคงที่สะท้อนถึงความมีประสิทธิภาพของบริษัทในการควบคุมต้นทุนและการตั้งราคาขาย ทริสเรทติ้ง คาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวจะปรับลดลงประมาณ 3%-4% หลังจากที่มาตรการด้านภาษีส่วนใหญ่ของภาครัฐสิ้นสุดลงในปี 2553 และการแข่งขันในตลาดเริ่มกลับมามีความรุนแรงจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโตสูงขึ้น การเปิดตัวโครงการ คอนโดมิเนียมใหม่ ๆ ที่มีความสม่ำเสมอมากขึ้นน่าจะช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดจากโครงการที่แล้วเสร็จเพียงพอที่จะใช้ลงทุนใน โครงการใหม่ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในเรื่องการเพิ่มภาระหนี้ลงไปได้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะแกว่ง ตัวในกรอบที่แคบประมาณ 45%-50% ในระยะปานกลาง เงินทุนจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1,300 ล้าน บาทในช่วงปี 2549-2550 มาอยู่ที่ 2,025 ล้านบาทในปี 2552 และ 1,517 ล้านบาทในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2553 ทริ สเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงขยายธุรกิจด้วยความระมัดระวังต่อไปโดยการรักษาสมดุลระหว่างเงินลงทุนกับกระแสเงินสดรับ ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของไทยค่อนข้างผันผวนในปี 2552 ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองภายในประเทศและ วิกฤติการณ์ทางการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 และอยู่ในสภาวะทรงตัวในปี 2553 ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หลังจากมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในปี 2553 ผู้ ประกอบการรายใหญ่เกือบทั้งหมดก็มีแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้น การซื้อที่ดินในทำเลที่เหมาะสมจึงมี แนวโน้มที่จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลส่วนใหญ่ได้สิ้นสุดลงในปี 2553 ทั้งนี้ ทริ สเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะค่อย ๆ ฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการเติบโตของเศรษฐกิจภายใน ประเทศ — จบ

บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                   คงเดิมที่ BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
AP117A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554	       คงเดิมที่ BBB+
AP118A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554       	คงเดิมที่ BBB+
AP122A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555       	คงเดิมที่ BBB+
AP141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557       	คงเดิมที่ BBB+
AP147A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557       	       คงเดิมที่ BBB+
AP157A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558       	       คงเดิมที่ BBB+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559	BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                   Positive (บวก)
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บ
ไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่า
ในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอ
แนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือ
ของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะ
อื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิ
ได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควร
ประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิต
นี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ
หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่
ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการ
กระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน
Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html




เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ