บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนการลงทุนของบริษัทโดยการถือหุ้นในสัดส่วน 94.6% ใน บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) ซึ่งคาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากกิจการรถไฟฟ้าและธุรกิจสื่อโฆษณา ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีสัดส่วนเงินกู้ในระดับสูงของบริษัท ตลอดจนนโยบายการลงทุนเชิงรุกและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าธุรกิจรถไฟฟ้าบีทีเอสจะยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนและสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม หากภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหากเป็นการเพิ่มขึ้นที่บริษัทโฮลดิ้ง และมีการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นก็อาจส่งผลในทางลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ก่อตั้งในปี 2511 ภายใต้ชื่อเดิมคือ บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) ธุรกิจดั้งเดิมของบริษัทคือธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีการเปิดโครงการใหม่มาตั้งแต่เกิดปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2540 แต่ต่อมาในปี 2551 ได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจโรงแรมโดยการก่อตั้ง บริษัท แอ็ปโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินกิจการและบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์ “U Hotel” ปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของโรงแรม 2 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และกาญจนบุรี ในเดือนพฤษภาคม 2553 บริษัทได้ซื้อหุ้นในสัดส่วน 94.6% ใน BTSC ซึ่งบริษัทเป็นผู้ก่อตั้งเมื่อปี 2535 ทั้งนี้ BTSC เป็นผู้ได้รับสัมปทานระยะเวลา 30 ปีจากกรุงเทพมหานครเพื่อก่อสร้างและดำเนินการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งมีเส้นทางให้บริการผ่านย่านสีลม สาธร และสุขุมวิท ภายใต้สัญญาสัมปทานดังกล่าว BTSC ได้รับสิทธิในการจัดเก็บรายได้ค่าโดยสาร รวมทั้งการให้เช่าพื้นที่และการโฆษณาในสถานีตลอดอายุสัมปทานซึ่งจะครบกำหนดในเดือนธันวาคม 2572 ในช่วงปลายปี 2552 BTSC ได้ขยายสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเริ่มการก่อสร้างโรงแรม 4 ดาว ดังนั้น ตั้งแต่ปีบัญชี 2554 เป็นต้นไป ธุรกิจของบริษัทจะขยายไปยังธุรกิจสัมปทานรถไฟฟ้า สื่อโฆษณา พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม ส่งผลทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง โดยจะเป็นการสะท้อนผลประกอบการของ BTSC เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างปีบัญชี 2551-2553 บริษัทมีรายได้ประมาณปีละ 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2554 บริษัทมีรายได้ 4,313 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสสูงที่สุดคิดเป็น 64% ของรายได้ทั้งหมด ตามมาด้วยรายได้จากสื่อโฆษณา 23% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 11%
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า หลังจากบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จในปี 2549 แล้ว โครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็แข็งแกร่งขึ้นจากการที่ภาระหนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งมีการเพิ่มทุนใหม่ ทั้งนี้ ภาระหนี้ของบริษัทลดลงจาก 35,176 ล้านบาทในปีบัญชี 2549 เหลือ 4,779 ล้านบาทในปีบัญชี 2550 และเหลือ 2,313 ล้านบาทในปีบัญชี 2553 อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ของบริษัทกลับเพิ่มขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ 24,086 ล้านบาทในเดีอนธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นผลมาจากการกู้ยืมเพื่อใช้ในการซื้อกิจการของ BTSC และการรวมหนี้ของ BTSC เข้ามา การซื้อกิจการในครั้งนี้ใช้เงินทุนทั้งสิ้น 40,035 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจ่ายด้วยวิธีการแลกหุ้น ตลอดจนการเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และการกู้เพิ่ม แม้ว่าภาระหนี้ของบริษัทจะสูงขึ้น แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จึงมีผลทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นไม่มากนักจาก 32.26% ในปีบัญชี 2553 มาอยู่ที่ 39.06% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 ทั้งนี้ ในปีบัญชี 2554 บริษัทคาดว่าจะสามารถมีผลกำไรจากการดำเนินงานและมีเงินทุนจากการดำเนินงานเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ซึ่งจะมีผลทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์จัดเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีรายได้หลักมาจากผลประกอบการของ BTSC แม้จะมีอำนาจในการควบคุม BTSC ทั้งหมด แต่กระแสเงินสดที่ใช้ในการจ่ายภาระหนี้ทางการเงินของบริษัทก็ได้มาจากเงินปันผลของ BTSC ดังนั้น จึงมีผลทำให้เจ้าหนี้ของบริษัทมีฐานะที่ด้อยสิทธิกว่าเจ้าหนี้ของ BTSC ทั้งนี้ หากบริษัทมีการออกตราสารหนี้ก็จะมีผลทำให้อันดับเครดิตตราสารหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กร ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html