ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บ. อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง” เป็นระดับ “A” จาก “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday April 27, 2011 10:11 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด เป็นระดับ “A” จากเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงแรงหนุนที่เพิ่มมากขึ้นต่อสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทจากการได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นจากบริษัทแม่ คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เนื่องจากบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกเชิง กลยุทธ์ในกลุ่มธุรกิจการเงินแบบ Solo Consolidation ของธนาคารในด้านธุรกิจสินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรมซึ่งอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์เป็นที่ยอมรับ ความสามารถในการขยายสินเชื่อ และความสามารถในการรักษาต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนจากการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณภาพเครดิตอ่อนแอกว่ากลุ่มลูกค้าธนาคารพาณิชย์เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้าและมีฐานทุนที่อ่อนแอลงจากการขยายสินเชื่อโดยใช้เงินกู้ยืม

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าแนวทางธุรกิจของบริษัทจะยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์ธุรกิจของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาอย่างใกล้ชิดและบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคาร แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทที่จะดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลัก รวมถึงสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ และดำรงค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะดำรงฐานทุนที่เพียงพอเพื่อรองรับความเสี่ยงจากคุณภาพเครดิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีค่อนข้างสูง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาดำเนินนโยบายการเป็นธนาคารพาณิชย์แบบครบวงจรและกำหนดให้บริษัทอยุธยา ดีเวล ลอปเม้นท์ ลีสซิ่งเป็นหน่วยงานเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจให้เช่าระยะยาวแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2547 ในปี 2551 บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ซึ่งส่งผลให้บริษัทดำเนินธุรกิจใกล้ชิดและสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจของธนาคารโดยให้บริการสินเชื่อทั้งแก่ลูกค้าของธนาคารและลูกค้าอื่น ๆ การสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินจากธนาคารช่วยยกระดับสถานะทางการตลาดในธุรกิจหลักและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินให้แก่บริษัท นอกเหนือจากตั๋วแลกเงินแล้ว เงินกู้ยืมทั้งหมดของบริษัทในปัจจุบันล้วนเป็นการกู้ยืมจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั้งสิ้น กิจกรรรมในการดำเนินงานของบริษัททั้งหมดอยู่ภายใต้การตรวจสอบและควบคุมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่บริษัทก็มีการพัฒนาเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมกับธุรกิจลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องภายใต้การสนับสนุนของธนาคารเช่นกัน โดยเครื่องมือดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับแนวนโยบายของธนาคารกรุงศรีอยุธยาตามที่กำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

สินเชื่อคงค้างของผู้ประกอบการรายใหญ่ 12 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้งลดลงในปี 2552 เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม สถานะทางการตลาดของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อรวมคงค้างของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 12 รายในปี 2552 อยู่ที่ 40,059 ล้านบาท ลดลง 5.86% จาก 42,552 ล้านบาทในปี 2551 เปรียบเทียบกับอัตราการเพิ่ม 4.14% ในปี 2549และ 3.62% ในปี 2551 ในบรรดาผู้ประกอบการทั้ง 12 ราย บริษัทมีสินเชื่อที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 โดยลดลงจากอันดับ 1 เมื่อปี 2550 อันเป็นผลจากการควบรวมกิจการของผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่น 2 รายในปี 2551 กระนั้นบริษัทก็ยังสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 21.13% ในปี 2552 จาก 17.3% ในปี 2551 ซึ่งใกล้เคียงกับผู้นำตลาดซึ่งมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 21.14%

ในปี 2553 บริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับสุทธิ (รวมรายได้สุทธิจากการให้เช่าดำเนินงาน) จำนวน 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 16% จาก 331 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อรวม (รวมสินทรัพย์ให้เช่าดำเนินงานสุทธิ) ที่ระดับ 20.4% เป็น 10,194 ล้านบาทในปี 2553 จาก 8,466 ล้านบาทในปี 2552 ผู้บริหารของบริษัทมีความสามารถในการจัดรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายแทนที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ตามปกติเหมือนผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดเฉพาะที่ผู้ประกอบการรายอื่นยังเข้าไม่ถึง ทำให้สินเชื่อของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม บริษัทใช้เงินจากการกู้ยืมเพื่อใช้ขยายสินเชื่อจำนวนมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเป็นหลัก ส่งผลให้อัตราส่วนโครงสร้างเงินทุนลดลงดังเห็นได้จากอัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมที่ลดลงจาก 18.5% ในปี 2550 เป็น 13.5% ในปี 2553

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งปรับเพิ่มขึ้นเป็น 223 ล้านบาทในปี 2553 จาก 147 ล้านบาทในปี 2552 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สุทธิจากเงินประกันการเช่า) ต่อเงินให้สินเชื่อรวมถัวเฉลี่ย (สุทธิจากเงินประกันการเช่า) ลดลงเป็น 4.4% ณ สิ้นปี 2553 จาก 6.7% ในปี 2552 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมลดลงเป็น 3.0% ในปี 2553 จาก 3.4% ในปี 2552 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายสินเชื่อในปี 2553

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ แสดงถึงโอกาสที่บริษัทจะมีความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกค้าในกรณีที่คุณภาพสินเชื่อลดต่ำลงในช่วงเศรษฐกิจชะงักงัน นอกจากนี้ การที่บริษัทให้ความสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเองก็ส่งผลให้บริษัทมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่เช่นกัน แม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งของลูกค้ารายใหญ่ 10 รายแรกต่อสินเชื่อรวมจะลดลงมาอยู่ที่ 30.9% ในปี 2553 จาก 40.0% ในปี 2551 และ 36.6% ในปี 2549 กระนั้น อัตราส่วนดังกล่าวก็ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ประโยชน์จากการเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในแง่การมีต้นทุนดำเนินงานในระดับต่ำ โดยในปี 2553 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมลดลงมาอยู่ที่ 10.9% จาก 11.5% ในปี 2552 ซึ่งน้อยกว่าระดับ 20%-30% ของคู่แข่ง -- จบ

บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด (ADLC)
อันดับเครดิตองค์กร: เพิ่มเป็น A จาก A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัด
อันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ