บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.98% โดย บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของธนาคารที่ระดับ “A” และ “A-” ตามลำดับ พร้อมแนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร การมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี และความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่ธนาคารมีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีและความสามารถในการรักษาระดับกำไรเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากจำนวนเครือข่ายของธนาคารซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อตลาดระดมเงินฝากภายหลังการบังคับใช้พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากซึ่งจะมีผลในวันที่ 11 สิงหาคม 2554 นอกจากนี้ ธนาคารยังเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมทั้งความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย โดยปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของธนาคาร
แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนความคาดหวังว่าธนาคารทิสโก้จะสามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ อีกทั้งยังมีผลประกอบการทางการเงินตามที่คาดไว้ได้ในระยะปานกลาง แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของธนาคารในการควบคุมคุณภาพของสินทรัพย์และดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงในช่วงวงจรเศรษฐกิจขาลงในอนาคตอันเกิดจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอนได้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารจะเผชิญกับความท้าทายจากผลที่จะเกิดขึ้นภายหลังการบังคับใช้กฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝาก อาทิ ความสามารถในการดำรงความเข้มแข็งของธนาคาร และความสามารถในการรักษาฐานเงินทุนที่มั่นคงด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เป็นต้น
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารทิสโก้ได้สร้างและพัฒนาบุคลากรระดับบริหารจนมีความเชี่ยวชาญภายใต้แนวทางการบริหารจัดการที่รอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารเติบโตได้เป็นอย่างดีในธุรกิจที่ธนาคารมีความชำนาญ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 ธนาคารเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับที่ 10 จากจำนวนธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 13 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับสินเชื่อรวมที่ 2.2% และสำหรับเงินรับฝากที่ 0.7% ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตถัวเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 21% ด้วยจำนวนเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2553 ทั้งสิ้น 145 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จาก 109 พันล้านบาทในปี 2552 โดยเป็นผลจากการที่ธนาคารให้สินเชื่อแก่ลูกค้าสถาบันและลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังมีสถานะทางการแข่งขันที่ดีขึ้นในธุรกิจหลักคือธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อโดยเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2553 ที่ประมาณ 13% จากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง
ฐานะทางการเงินของธนาคารทิสโก้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิในปี 2553 จำนวน 1,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 1,357 ล้านบาท ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยสำหรับปี 2553 เท่ากับ 1.36% และ 17% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก 1.08% และ 12.03% ในปี 2552 ทั้งนี้ เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รวมถึงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
ธนาคารทิสโก้ได้พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งนี้ สินทรัพย์ของธนาคารยังคงมีคุณภาพดีซึ่งสะท้อนจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวม โดย ณ สิ้นปี 2553 อัตราส่วน NPL ของธนาคารลดลงไปอยู่ที่ 1.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 11 แห่ง (ไม่รวมธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)) จากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง นอกจากนี้ ธนาคารยังมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) (เงินให้สินเชื่อจัดชั้นค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์สินรอการขาย) คิดเป็น 0.2 เท่าของเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร โดยลดลงจาก 0.27 เท่าในปี 2552 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.6 เท่า
ในส่วนของแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องนั้น ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธนาคารทิสโก้มีแหล่งเงินทุนที่สำคัญจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ซึ่งอาจเกิดความผันผวนได้ง่าย ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2553 ธนาคารยังคงพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากผู้ฝากเงินรายใหญ่ (เงินฝากเกินกว่า 10 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็น 77% ของเงินรับฝากและตั๋วแลกเงิน ธนาคารอาจเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องได้ในกรณีที่ลูกค้าหลายรายมีการเบิกถอนเงินออกไปในคราวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีกลยุทธ์ในการเพิ่มจำนวนบัญชีสำหรับลูกค้ารายย่อยให้มีมากขึ้นเพื่อให้แหล่งเงินทุนมีการกระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังมีความเสี่ยงอันเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝากโดยอาจส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งและความมั่นคงของแหล่งเงินทุนของธนาคารด้วย
ในส่วนของฐานเงินทุนนั้น ธนาคารทิสโก้รายงานอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวม ณ สิ้นปี 2553 ที่ 11.29% และ 15.23% ตามลำดับ ลดลงจาก 12.46% และ 16.96% ในปี 2552 โดยเป็นผลจากการขยายธุรกิจของธนาคาร และแม้ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนรวมของธนาคารจะต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทย 11 แห่งซึ่งอยู่ที่ 15.42% แต่ธนาคารยังคงมีเงินกองทุนที่เพียงพอและยังห่างจากเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระดับ 8.5% ซึ่งกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้ ธนาคารได้มีการคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านเครดิตโดยการใช้วิธีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือภายใน (Internal Ratings Based Approach - IRB) ภายใต้หลักเกณฑ์ Basel II อีกทั้งยังได้พัฒนากระบวนการประเมินความเพียงพอของเงินกองทุนภายใน (ICAAP) ด้วย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบการบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินกองทุนของธนาคารในอนาคต ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TSCO125A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 A TISCO192A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A- TISCO195A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A- TISCO205A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A- TISCO20DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A- แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html