ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & ตราสารหนี้เดิม และจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ใหม่ “บ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday July 20, 2011 09:05 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทจะนำเงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกันยายน 2554 อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนความสามารถของคณะผู้บริหาร การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความยืดหยุ่นทางการเงินจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และภาระหนี้ของบริษัทที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงในระยะปานกลาง

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งดำรงอัตราการเติบโตและสภาพคล่องในระดับที่น่าพอใจเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่า 50% เป็นเวลาที่นานต่อเนื่องในระดับหนึ่ง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยก่อตั้งในปี 2526 โดยตระกูลอัศวโภคิน ณ เดือนกรกฎาคม 2554 ตระกูลอัศวโภคินมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 31% รองลงมาคือ Government of Singapore Investment Corporation (GIC) ในสัดส่วน 16% สินค้าหลักของบริษัทคือบ้านเดี่ยวซึ่งสร้างรายได้ในสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของรายได้รวม แบรนด์ที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย การมีสินค้าบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์และราคาที่หลากหลายช่วยให้บริษัทสามารถเลือกเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับกำลังซื้อและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละทำเล ความแข็งแกร่งทางการตลาดของบริษัทสะท้อนจากอัตราการเติบโตของยอดขายในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทมีอัตราเติบโตของยอดขายเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2550 อยู่ที่ 5.1% ต่อปี อุปสงค์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระหว่างปี 2552-2553 ช่วยลดผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงในปี 2551

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในปี 2553 บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์นำเสนอสินค้าที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ใหม่ 3 แบรนด์สำหรับกลุ่มตลาดระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อหน่วย ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทคงต้องใช้เวลาในการสร้างฐานที่เข้มแข็งในตลาดใหม่นี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงสั้นนี้บริษัทน่าจะสามารถสร้างรายได้จากสินค้ากลุ่มใหม่ในระดับที่น่าพอใจอันจะช่วยเสริมอัตราการเติบโตของบริษัทให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมมากขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์น่าจะเริ่มเติบโตขึ้นจากการที่ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปี 2554 ในขณะที่รายได้จากคอนโดมิเนียมจะเริ่มปรากฎเป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้นในปี 2555 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 บริษัทมียอดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) มูลค่า 3.9 พันล้านบาท แม้ว่ามูลค่าดังกล่าวจะไม่ถือว่าสูงนักเมื่อเปรียบเทียบกับระดับรายได้ในอนาคต แต่ทริสเรทติ้งมองว่าความเสี่ยงด้านรายได้ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เมื่อพิจารณาถึงผลงานความสำเร็จของบริษัทที่ผ่านมาในอดีต

บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 18.9% ในไตรมาสแรกของปี 2554 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวของบริษัทน่าจะอยู่ที่ 18%-19% ในระยะปานกลาง โดยคาดว่าจะมีแรงกดดันระดับหนึ่งจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดสำหรับโครงการ “Terminal 21” อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ เดือนมีนาคม 2554 อยู่ที่ 45.3% โดยอัตราส่วนดังกล่าวน่าจะอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไปอีกประมาณ 1-2 ปี ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยหลายประการ อาทิ ต้นทุนค่าก่อสร้างโครงการ Terminal 21 ต้นทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และนโยบายจ่ายเงินปันผลอัตราสูง ทั้งนี้ บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้ต่ำกว่า 1.25 เท่าตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.83 เท่า

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงสภาพคล่องของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ว่ายังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แม้ว่าจะอ่อนแอลงนับจากปี 2553 จากภาระหนี้ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2553 บริษัทสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ 2.9 พันล้านบาท โดยเงินปันผลจากบริษัทร่วมคิดเป็นสัดส่วน 21% ของกระแสเงินสดดังกล่าว ทั้งนี้ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากปี 2555 เมื่อรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเริ่มมีมากขึ้น

ความต้องการที่อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยปกติภาครัฐมักให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 ตลาดที่อยู่อาศัยของไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากแรงกระตุ้นของมาตรการจูงใจด้านภาษีของภาครัฐในช่วงปี 2551-2553 และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยอยู่ในสภาวะทรงตัวตลอดปี 2553 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหลายรายได้เร่งซื้อที่ดินเพิ่มตั้งแต่ปลายปี 2552 ซึ่งส่งผลทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของผู้ประกอบการหลายรายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปี 2553 การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2554 และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงวงจรขาขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่คาดว่าจะชะลอความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการเก็งกำไรในตลาดคอนโดมิเนียมลงและลดทอนความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น จึงคาดว่าอัตราการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้จะต่ำลงเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายน่าจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ประกอบการรายเล็กเพราะผู้ประกอบการรายใหญ่พยายามเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจโดยการเข้าไปแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ต่ำลง สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งกว่าในอดีต ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                        คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
LH119A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554     	           คงเดิมที่ A
LH127A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	           คงเดิมที่ A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2557	    A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                        Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ