ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ปัจจุบัน และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่ “บ. บัตรกรุงไทย” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Monday August 1, 2011 11:12 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “BBB+” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB+” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงการมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง ตลอดจนสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจบัตรเครดิต และระบบการจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนการได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 49.45% ด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดในด้านต้นทุนทางการเงินของบริษัท และภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของทั้งอุตสาหกรรม

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวังและรักษาสมดุลย์ของทั้งธุรกิจและสัดส่วนของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ในขณะที่ยังสามารถคงคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้ได้ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากเกิดวิกฤตเมื่อปี 2551 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าธนาคารกรุงไทยจะยังคงให้การสนับสนุนบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านการเงินและการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งบริษัทจะสามารถบรรลุแแผนการสร้างความต่อเนื่องในการบริหารงานได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันจะหมดวาระในช่วงปลายปีนี้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า แม้ว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งได้พยายามอย่างหนักที่จะรุกขยายฐานลูกค้าในธุรกิจบัตรเครดิต แต่ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทบัตรกรุงไทยก็ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตนในธุรกิจดังกล่าวเอาไว้ได้ที่ระดับ 12%-13% ทั้งในด้านยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและจำนวนผู้ถือบัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นจาก 54.4 พันล้านบาทในปี 2549 เป็น 87.9 พันล้านบาทในปี 2553 ในขณะที่จำนวนผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้นจาก 1.40 ล้านบัญชีเป็น 1.73 ล้านบัญชี โดยมียอดลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิตของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 16.5% ของอุตสาหกรรม ณ สิ้นปี 2553 ในส่วนของธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งบริษัทเริ่มให้บริการในปี 2546 นั้น บริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านยอดลูกหนี้สินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 4.6% ในปี 2549 เป็น 6.1% ในปี 2553

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การที่บริษัทบัตรกรุงไทยใช้การกู้ยืมและการออกตราสารหนี้เป็นแหล่งเงินทุนหลักในขณะที่คู่แข่งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีต้นทุนทางการเงินที่ถูกกว่าจากการมีฐานเงินฝากเป็นแหล่งเงินทุนทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินสูง ซึ่งส่งผลในการลดทอนความแข็งแกร่งทางธุรกิจและทำให้ยากต่อการแข่งขันเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาด ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของบริษัทในปี 2553 อยู่ในระดับเดียวกับปี 2552 ที่ 4.8% อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของตลาดในช่วงนี้มีแนวโน้มผลักดันให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 เงินกู้ยืมของบริษัทประมาณ 90% เป็นเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ซึ่งจะทยอยครบกำหนดชำระในปี 2554 2555 และ 2556 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดของทางการในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมที่สามารถเรียกเก็บ หรือคุณสมบัติของผู้ถือบัตรเครดิตและลูกค้าสินเชื่อบุคคลที่กลายเป็นข้อจำกัดในการขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เมื่อประกอบกับสภาพการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วถือเป็นปัจจัยที่ยังคงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่อไป

จากการที่บริษัทบัตรกรุงไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายทำให้ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องระยะสั้นมิใช่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง กล่าวคือ บริษัทมีเงินทุนที่ใช้สนับสนุนสภาพคล่องจากเงินกู้ที่ได้จากสถาบันการเงินหลายแห่งและจากหุ้นกู้ที่มีวันครบกำหนดชำระหนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้จากธนาคารกรุงไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 อีก 18,030 ล้านบาทด้วย นอกจากการสนับสนุนในด้านเงินทุนแล้ว บริษัทยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศในการขยายฐานลูกค้า โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10%-20% นั้นมาจากช่องทางดังกล่าว

ยอดลูกหนี้สินเชื่อรวมของบริษัทเติบโตเพียงเล็กน้อยจาก 47,237 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 เป็น 48,026 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 แต่ยังคงต่ำกว่า 50,587 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2551 อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากหลายปัจจัยซึ่งรวมถึงนโยบายการขยายสินเชื่อส่วนบุคคลที่เข้มงวดขึ้นในปี 2552 จากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตลอดจนสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้บัตรเครดิตที่ชำระเต็มจำนวนในปี 2553 และนโยบายการเร่งตัดหนี้สูญให้เร็วขึ้นซึ่งเริ่มใช้ในปี 2552 ในด้านคุณภาพสินทรัพย์นั้น อัตราสินเชื่อค้างชำระ (เกิน 90 วัน) ของบริษัทลดลงจากที่เคยสูงสุดกว่า 5.0% ในระหว่างปี 2552 มาอยู่ที่ 4.0% ณ สิ้นปี 2552 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2554 อัตราหนี้สูญตัดบัญชีสุทธิได้ปรับลดกลับลงมาอยู่ที่ 6.8% ในปี 2553 หลังจากที่เคยพุ่งสูงขึ้นถึง 10.4% ในปี 2552 จากผลของการถดถอยลงของคุณภาพสินทรัพย์และการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชีเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำมาตรฐานบัญชีระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับสถาบันการเงินฉบับที่ 39 (IAS 39) มาใช้ ซึ่งมีผลทำให้ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจาก 3,288 ล้านบาทในปี 2551 เป็น 5,604 ล้านบาทในปี 2552

บริษัทมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาทในปี 2553 และ 60 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 395 ล้านบาทในปี 2552 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในระดับต่ำกว่าผลกำไรที่บริษัทเคยทำได้ในช่วงปี 2551 และก่อนหน้านั้นอยู่มาก ผลขาดทุนในปี 2552 นั้นเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวนมาก หากพิจารณาแยกค่าใช้จ่ายดังกล่าวออกจะพบว่าบริษัทมีกำไรที่ยังไม่เสียภาษีก่อนตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจาก 3,997 ล้านบาทในปี 2551 เป็น 4,462 ล้านบาทในปี 2552 แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับลดต่ำลงเหลือ 3,690 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของยอดลูกหนี้สินเชื่อในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยและนโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC)
อันดับเครดิตองค์กร:	                            คงเดิมที่ BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
KTC126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555  	คงเดิมที่ BBB+
KTC128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555   	คงเดิมที่ BBB+
KTC129A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	คงเดิมที่ BBB+
KTC12OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 220 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	คงเดิมที่ BBB+
KTC135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	คงเดิมที่ BBB+
KTC135B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556   	คงเดิมที่ BBB+
KTC135C: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556  	คงเดิมที่ BBB+
KTC13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 7,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556     คงเดิมที่ BBB+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559    BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                             Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ