บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ไทคอน
อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากสัญญาเช่าโรงงานและคลังสินค้า รวมทั้งผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัท ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพหลังการเลือกตั้งทั่วไป อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในประเทศสหรัฐอเมริกา ประชาคมยุโรป และประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดใหม่ของไทยถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าได้ต่อไป โดยสถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพและการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์จะส่งผลทำให้มีความต้องการพื้นที่เช่าโรงงานเพิ่มขึ้นแม้ความกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีมากขึ้นก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น เป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าของไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 มีโรงงานให้เช่าจำนวน 115 โรง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 42 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมหลัก ๆ ของประเทศ คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 516,865 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในปี 2553 รายได้หลักของบริษัท (62%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ 30% มาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า โดยในระหว่างปี 2549-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น ณ เดือนมิถุนายน 2554 ยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.5%) รวมทั้งกลุ่มผู้บริหารของบริษัท (9.6%) กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (2.3%) และกลุ่มซิตี้เรียลตี้ (4.6%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทให้บริการโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวในทำเลต่าง ๆ 13 แห่งและคลังสินค้าให้เช่าอีก 8 แห่ง จากรายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่า ณ เดือนมีนาคม 2554 บริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย โดยบริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 64.3% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ คู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (11.8%) บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (10.0%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (7.2%) และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (6.7%)
จำนวนพื้นที่เช่ารวมภายใต้การบริหารของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างปี 2550-2553 อย่างต่อเนื่องปีละ 15%-22% หรือเพิ่มขึ้น 100,000-140,000 ตร.ม. ต่อปี ยกเว้นในปี 2552 ซึ่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกที่จำนวนพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นเพียง 5% จากปี 2551 หรือเพิ่มขึ้น 34,625 ตร.ม. อย่างไรก็ตาม ระดับดังกล่าวถือว่าดีกว่าของคู่แข่งอย่างมากเนื่องจากผู้ประกอบการในธุรกิจส่วนใหญ่มีจำนวนพื้นที่เช่าลดลงในปี 2552 การเติบโตของจำนวนพื้นที่เช่าดังกล่าวของบริษัทเป็นผลจากการเติบโตของคลังสินค้าให้เช่าซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการลดลงของพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ในขณะเดียวกัน จำนวนพื้นที่เช่าของบริษัทหลังจากการขายสินทรัพย์บางส่วนให้ TFUND และ TLOGIS ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเพิ่มเป็น 400,195 ตร.ม. ในปี 2553 จาก 344,943 ตร.ม. ในปี 2549 หรือเติบโตในอัตรา 3.8% ต่อปี ในช่วงเดียวกัน รายได้ค่าเช่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 851 ล้านบาทในปี 2553 จาก 628 ล้านบาทในปี 2549 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 รายได้ค่าเช่าของบริษัทยังคงเติบโตในระดับ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 454 ล้านบาท พื้นที่เช่าโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 29% จากเดือนธันวาคม 2553 เป็น 516,865 ตร.ม. ณ เดือนมิถุนายน 2554 เทียบกับอัตราการเติบโต 12% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 อัตราการเช่ารวมปรับตัวดีขึ้นเป็น 84.4% ณ เดือนมิถุนายน 2554 จาก 74.6% ณ เดือนธันวาคม 2553 จำนวนพื้นที่เช่าและอัตราการเช่าที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการฟื้นตัวของความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้า อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าของบริษัทยังอยู่ในระดับสูงที่ 74.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 แม้ว่าจะลดลงจาก 78.0% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 เนื่องจากการมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจคลังสินค้าซึ่งมีกำไรต่ำกว่าและการมีต้นทุนในการปรับปรุงโรงงานและคลังสินค้าที่สูงขึ้น ณ เดือนมิถุนายน 2554 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ในระดับทรงตัวที่ 52.3%
ในอนาคต ความต้องการโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่ายังคงมีแนวโน้มเติบโตจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนซึ่งเพิ่มขึ่น 34% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานและการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สะดุดไปชั่วขณะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเพียงระยะสั้น ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ได้ประกาศเพิ่มการผลิตให้กลับสู่ระดับปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 หลังจากที่ได้ลดการผลิตลง 50% ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2554 ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากความต้องการพื้นที่เช่าที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไปเนื่องจาก 70% ของลูกค้าที่เช่าพื้นที่ของบริษัทเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TICON128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ A TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html