ทริสเรทติ้งจัดอันดับหุ้นกู้มีการค้ำประกันวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท “บ. โกลว์ พลังงาน” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Friday August 19, 2011 13:16 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่นี้ใช้แทนอันดับเครดิตระดับ “A” ที่ให้ไว้แก่หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทของบริษัทเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 เนื่องจากบริษัทตัดสินใจเพิ่มวงเงินหุ้นกู้อีกจำนวน 3,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ใหม่ไปใช้ชำระหนี้เงินกู้ของ บริษัท ไทยเนชั่นแนล เพาเวอร์ จำกัด (TNP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของ TNP

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลงานในธุรกิจผลิตไฟฟ้าภายในประเทศที่ได้รับการยอมรับ ตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่แน่นอนจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (Power Purchase Agreement -- PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากความเสี่ยงที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในบริเวณมาบ ตาพุด

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะมีกระแสเงินสดที่แน่นอนจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม การเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจะค่อย ๆ เพิ่มกระแสเงินสดที่แน่นอนให้แก่บริษัทในปี 2554 และปี 2555 ตามลำดับ

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทโกลว์ พลังงานก่อตั้งในปี 2536 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer -- SPP) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บริษัทได้ขยายสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogen) และธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (Independent Power Producer — IPP) ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันกลุ่ม GDF SUEZ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ทั้งนี้ GDF SUEZ เป็นกลุ่มพลังงานชั้นนำของโลกซึ่งดำเนินธุรกิจตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า ค้าก๊าซ และให้บริการด้านพลังงานอื่น ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป บริษัทโกลว์ พลังงานเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัทมีรายได้และกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากธุรกิจ Cogen ประมาณ 70% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2553 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1,945 เมกะวัตต์ โดยมาจากโครงการ IPP 865 เมกะวัตต์ และ Cogen 1,080 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า IPP พลังงานก๊าซของบริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี และโรงไฟฟ้า IPP พลังงานน้ำตั้งอยู่ในประเทศลาว ธุรกิจโรงไฟฟ้า Cogen ของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและอีสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดระยองให้บริการแก่ลูกค้าในธุรกิจปิโตรเคมีเป็นหลัก โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าวต้องการกระแสไฟฟ้าที่มีความแน่นอนสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเสี่ยงจากการมีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งกระจุกตัวอยู่ในเขตพื้นที่มาบตาพุดซึ่งมีปัญหาความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อม

จากกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของกลุ่มโกลว์จำนวน 1,945 เมกะวัตต์และกำลังการผลิตไอน้ำจำนวน 1,046 ตันต่อชั่วโมง บริษัททำสัญญา PPA อายุระหว่าง 21-25 ปีเพื่อขายไฟฟ้าจำนวน 1,429 เมกะวัตต์ให้แก่ กฟผ. ส่วนปริมาณไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือรวมถึงน้ำปราศจากแร่ธาตุนั้นบริษัททำสัญญาขายระยะยาวให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โดยสัญญาดังกล่าวมีระยะเวลาคงเหลือมากที่สุด 20 ปี ทั้งนี้ การขายไฟฟ้าและไอน้ำตามสัญญาดังกล่าวถือเป็นแหล่งรายได้ที่แน่นอนสำหรับบริษัท ในปี 2553 บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ในสัดส่วน 57% และส่วนที่เหลือขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทโกลว์ พลังงานมีมติอนุมัติการซื้อหุ้น TNP 100% จาก International Power PLC (IPR) ในราคา 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่คือ GDF SUEZ และ IPR ที่มีแผนรวมกิจการธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าด้วยกันหลังจาก IPR ได้ควบรวมกิจการกับกลุ่ม GDF SUEZ เมื่อต้นปี 2554 TNP เป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซขนาด 141 เมกะวัตต์ภายใต้โครงการ SPP ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโรงไฟฟ้า Cogen ขนาด 110 เมกะวัตต์ภายใต้โครงการ SPP มูลค่า 4,500 ล้านบาทด้วย ปัจจุบัน TNP มีรายได้ปีละ 2,400-2,600 ล้านบาท และมี EBITDA ปีละ 460-540 ล้านบาทในระหว่างปี 2551-2553 ณ เดือนมิถุนายน 2554 TNP และบริษัทย่อยมีหนี้เงินกู้ที่มีดอกเบี้ยรวม 2,902 ล้านบาท ทั้งนี้ TNP จะต้องลงทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าโรงที่ 2 ภายใต้โครงการ SPP ดังนั้นการลงทุนใน TNP ของบริษัทโกลว์ พลังงานจึงคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7,570 ล้านบาท หรือเทียบเท่ากับ 30.2 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ หลังการซื้อหุ้น TNP กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีก 251 เมกะวัตต์ในปี 2555 หรือคิดเป็น 8% จากระดับกำลังการผลิตไฟฟ้าก่อนการลงทุน การลงทุนใน TNP จะทำให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นเนื่องจากโรงไฟฟ้าของ TNP ตั้งอยู่นอกพื้นที่มาบตาพุดและให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ฐานะการเงินของบริษัทจะอ่อนแอลงในระยะกลางหลังจากการรวมกิจการของ TNP แต่ภาระหนี้เงินกู้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่จัดการได้เนื่องจากจะมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นทั้งจาก TNP และจากโครงการใหม่ของบริษัทที่กำลังทยอยเปิดดำเนินการ

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอยู่ที่ระดับ 18,613 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจ IPP ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากผลกระทบของการแข็งค่าของเงินบาท รวมทั้งจำนวนวันของการปิดซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น และปัญหาปริมาณน้ำฝนที่ลดลงซึ่งกระทบต่อรายได้จากโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ SPP และการขายไอน้ำให้ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมช่วยลดผลกระทบจากการลดลงของรายได้ในธุรกิจ IPP อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทปรับตัวลงมาที่ 25.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 จาก 26.3% ในช่วงเดียวกันของปี 2553 ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและการลดลงของค่าไฟฟ้าผันแปรในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2554 EBITDA ของบริษัททรงตัวอยู่ที่ระดับ 4,748 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 63.1% เทียบกับ 62.6% ในปี 2553 เนื่องจากบริษัทมีการกู้ยืมเพิ่มเพื่อลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ดี คาดว่า EBITDA ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปี 2554 จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าแห่งใหม่

โครงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 2 โครงการคือ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมระยะที่ 5 (ขนาด 382 เมกะวัตต์เทียบเท่า) และโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้ชื่อ GHECO-One (ขนาด 660 เมกะวัตต์) นั้นยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการทั้ง 2 แห่งจะต้องใช้เงินทุนเพื่อการพัฒนาตามแผนอีกประมาณ 9,800 ล้านบาทในปี 2554 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมระยะที่ 5 จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนกันยายน 2554 ในขณะที่โรงไฟฟ้า IPP ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการขออนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) นั้นคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสแรกของปี 2555 โครงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าดังกล่าวรวมถึงการซื้อหุ้นใน TNP จะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 1,293 เมกะวัตต์เทียบเท่า และกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของกลุ่มโกลว์จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 58% เป็น 3,526 เมกะวัตต์เทียบเท่าภายในปี 2555 ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                             คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
GLOW12DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555                  คงเดิมทที่ A
GLOW156A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558      	          คงเดิมที่ A
GLOW173A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560                  คงเดิมที่ A
GLOW175A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560                  คงเดิมที่ A
GLOW17OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560	                 คงเดิมที่ A
GLOW186A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561	                 คงเดิมที่ A
GLOW194A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	                 คงเดิมที่ A	                   GLOW19OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	       คงเดิมที่ A
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2564           A
แนวโน้มอันดับเครดิต:		                                      Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ