ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ “บ. เซ็นทรัลพัฒนา”และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวทั่วไป Monday September 26, 2011 09:19 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทที่ระดับ “A+” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้า ตลอดจนผลงานในการบริหารศูนย์การค้าคุณภาพสูง กระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ และนโยบายทางการเงินที่มีความระมัดระวัง ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความต้องการเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อใช้รองรับแผนการขยายงานในช่วงปี 2554-2557 และการเปิดให้บริการใหม่ของศูนย์การค้าหลักของบริษัท 2 แห่งคือเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และเซ็นทรัลเวิลด์ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของศูนย์การค้าไว้ได้ ทั้งนี้ แม้ว่าบริษัทมีแผนการจะใช้เงินลงทุนจำนวนมากสำหรับการขยายธุรกิจในช่วงปี 2554-2557 แต่ก็คาดว่าบริษัทจะรักษานโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังต่อไปโดยการดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1 เท่าในระยะปานกลาง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีตระกูลจิราธิวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32% รองลงมาคือ บริษัท เซ็นทรัล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของไทย (27%) การอยู่ในเครือเซ็นทรัลทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการมีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นร้านค้าหลักภายในศูนย์การค้าของบริษัท ณ เดือนมิถุนายน 2554 บริษัทเป็นผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าจำนวน 16 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดสำคัญโดยมีพื้นที่ค้าปลีกรวม 896,261 ตารางเมตร (ตร.ม.) บริษัทคงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารศูนย์การค้าในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ค้าปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 21% ณ เดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งปรับลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากศูนย์การค้าที่บริษัทเปิดใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตต่างจังหวัด

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทเซ็นทรัลพัฒนามีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากการมีอัตราการเช่าพื้นที่ในระดับสูงและรายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าสาขาเดิมที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ บริษัทมีอัตราการเช่าศูนย์การค้าโดยเฉลี่ยที่ระดับ 96.8% ต่อปีในช่วงปี 2550 ถึงครึ่งแรกของปี 2554 ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 92.3% บริษัทเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงราย ในเดือนมีนาคม 2554 ศูนย์การค้าดังกล่าวมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 98.8% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 รายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าสาขาเดิมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2554 โดยเพิ่มขึ้น 4.8% และ 6.7% ในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ค่าเช่าและบริการของบริษัทลดลงเล็กน้อย 3% เป็น 9,822 ล้านบาทในปี 2553 จาก 10,178 ล้านบาทในปี 2552 สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่หายไปจากการปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และการโอนสินทรัพย์ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้าให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2552 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 รายได้ค่าเช่าและบริการปรับตัวดีขึ้นเป็น 5,120 ล้านบาทจาก 4,900 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2553 เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าวปิดปรับปรุงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม 2554 การเติบโตของรายได้ของบริษัทจึงมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์หลังจากเปิดให้บริการอีกครั้งในปลายปี 2553

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ค่าเช่าและค่าบริการและรายได้จากการขายของบริษัทว่ายังคงแข็งแกร่งที่ 40.57% ในปี 2553 และ 42.59% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 กระแสเงินสดของบริษัทอ่อนตัวลง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงเป็น 12.37% ในปี 2553 และ 6.67% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในครึ่งแรกของปี 2554 จาก 23.67% ในปี 2552 เนื่องจากรายได้ที่หายไปของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในปี 2553 และเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าวในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทน่าจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าวกลับมาเปิดให้บริการเต็มที่ในปี 2555 อีกทั้งการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พระราม 9 ในปลายปี 2554 จะช่วยเสริมให้กระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการทำสัญญาเช่าดำเนินงานฉบับใหม่สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และการกู้ยืมระยะยาวเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 51.32% ณ เดือนธันวาคม 2553 และ 53.06% ณ เดือนมิถุนายน 2554 เพิ่มขึ้นจาก 48.55% ณ เดือนธันวาคม 2552 ในระหว่างปี 2554-2557 บริษัทมีความต้องการใช้เงินลงทุนประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาทต่อปีในการขยายธุรกิจ โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมทั้งจากการกู้ยืม และการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ — จบ

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN)
อันดับเครดิตองค์กร:	                            คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CPN126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	คงเดิมที่ A+
CPN135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	คงเดิมที่ A+
CPN136A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	คงเดิมที่ A+
CPN145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	คงเดิมที่ A+
CPN164A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559	คงเดิมที่ A+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2564       A+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                              Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ