ยอดขายของบริษัททำสถิติสูงสุดที่ระดับ 5,014 ล้านบาทในปี 2553 โดยเพิ่มขึ้น 13% จาก 4,427 ล้านบาทในปี 2552 ยอดขายในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2554 ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 4,701 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 72% จาก 2,729 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2553 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของโครงการบ้าน เดี่ยวและคอนโดมิเนียม ยอดขายบ้านเดี่ยวยังคงแข็งแกร่งและเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงปี 2553 ถึง 8 เดือนแรกของปี 2554 ในขณะที่ยอดขายทาวน์เฮ้าส์กลับลดลงจาก ผลของการเปิดโครงการทาวน์เฮ้าส์ใหม่เพียง 2 โครงการเท่านั้นในปี 2553 เนื่องจากบริษัทเน้นพัฒนาบ้านเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ สำหรับยอดขายคอนโดมิเนียมในช่วงปี 2553 ถึง 8 เดือนแรกของปี 2554 นั้นส่วนใหญ่มาจากโครงการ “เซ็นทริค รัชดา-สุทธิสาร” บริษัทมีรายได้รวมจากโครงการที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 5,787 ล้านบาทในปี 2553 เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2552 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบ้านเดี่ยวและห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียม “เซ็นทริค ซีน รัชวิภา” ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 3,278 ล้านบาท จาก 2,345 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยรายได้จากบ้านเดี่ยวยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อน หลักในการเติบโต ในขณะที่รายได้จากค่าเช่ายังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สม่ำเสมอ โดยอยู่ที่ 829 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2552-2553 และเพิ่มขึ้นเป็น 429 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 จาก 408 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2553 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้โดยได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรจาก การดำเนินงานที่ระดับ 24%-25% ในระหว่างปี 2553 ถึงครึ่งแรกของปี 2554 ถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่ สภาพคล่องทางการเงินก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การขยายโครงการมากขึ้นในช่วงปี 2553 ถึง 6 เดือนแรกของปี 2554 ทำให้กระแสเงินสดของ บริษัทอ่อนตัวลง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงเป็น 26.5% ในปี 2553 จาก 29.51% ในปี 2552 และลดลงเป็น 11.86% (ยังไม่ได้ปรับ อัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 จาก 16.34% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วงเดียวกันของปี 2553 ภาระหนี้ของบริษัทคง อยู่ในระดับต่ำ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 36.2% อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นในระยะใกล้เนื่อง จากบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกในช่วงปี 2554-2555 ทริสเรทติ้งกล่าวถึงช่วงเวลาที่เหลือของปี 2554 ว่า ตลาดบ้านเดี่ยวน่าจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ตลาด ทาวน์เฮ้าส์น่าจะเติบโตในระดับที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวมเมื่อพิจารณาจากจำนวนหน่วยเหลือขายที่มีอยู่ ส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมในปี 2554 น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2553 จากแรงหนุนของคอนโดมิเนียม 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทในทำเลที่เป็นย่านชุมชนหนาแน่นและกลุ่มระดับราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทในทำเลที่ ใกล้เส้นทางระบบรถไฟฟ้า ทั้งนี้ นโยบายสนับสนุนด้านภาษีและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปลอดดอกเบี้ย ของรัฐบาลน่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสข้างหน้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยังคงมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนแรงกดดันด้านต้นทุนหากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลมีผลบังคับใช้ และภาระหนี้ของผู้ประกอบการที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่ง รายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้ มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของ บริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงาน ใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลราย ใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้ จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดัง กล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิด พลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html