ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท “บ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” ที่ระดับ “A-/Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday November 1, 2011 09:01 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ชำระหนี้เดิมที่มีอยู่กับสถาบันการเงิน อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัว ความสำเร็จของ

กลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติ ความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจยางธรรมชาติ และความเข้มแข็งของสถานะทางการเงิน ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยและกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่อ่อนแอลง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาผลการดำเนินงานที่ดีเอาไว้ได้ทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงของวงจรธุรกิจ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะรักษาสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินให้เพียงพอเพื่อรับมือกับความผันผวนของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นผู้นำในการแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในประเทศไทย โดยมีโรงงานแปรรูป 20 แห่งในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและอีก 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย ณ เดือนมิถุนายน 2554 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 987,555 ตันต่อปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกสำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 9.25% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 7.85% ในปี 2553 ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน รวมทั้งการมีข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทานยางธรรมชาติทำให้ผู้บริหารสามารถบริหารกิจการของบริษัทผ่านวงจรธุรกิจทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงโดยยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทมียอดจำหน่ายยางแปรรูปทั้งสิ้น 485,664 ตัน เพิ่มขึ้น 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 84% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรง แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมยางล้อเป็นส่วนใหญ่ แต่บริษัทก็มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ผลิตยางล้อขนาดกลางและขนาดเล็กด้วย บริษัทมียอดส่งออกคิดเป็น 83.4% ของปริมาณขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 โดยมีลูกค้าหลักคือประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 30.9% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมด

ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 3 ประเทศคิดเป็น 75% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 2.53 ล้านตันในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 0.91 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (0.72 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.27 ล้านตัน) ประมาณ 70% ของยางธรรมชาติใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางล้อ ที่เหลือ 30% ใช้ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง ถุงยางอนามัย และรองเท้า การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2554 อยู่ที่ 2.57 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อุตสาหกรรมยางแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็นประมาณถึง 95%-98% ของต้นทุนการแปรรูป ผู้ประกอบการมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลทำให้กำไรและกระแสเงินสดมีแนวโน้มแปรปรวน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงดังกล่าว บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีจึงปรับเปลี่ยนนโยบายทางการตลาดโดยใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Back-to-Back และพยายามซื้อขายโดยตรงกับผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกร กระนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านราคาในช่วงที่ราคายางมีความผันผวนในระดับสูงไปได้

บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีรายงานผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยทั้งรายได้และกำไรอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งเป็นผลมาจากราคายางธรรมชาติและยอดส่งมอบสินค้าที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาขายเฉลี่ยในปี 2553 ของบริษัทอยู่ที่ 97.7 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2552 ราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 145.7 บาท/กิโลกรัมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานยางธรรมชาติที่ลดลงจากสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ในด้านของปริมาณการขาย บริษัทมียอดส่งมอบเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 485,664 ตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของการบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลก บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นก่อนค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.79% ในปี 2553 และ 4.06% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 และมีเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,709 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนทั้ง ๆ ที่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นและได้รับเงินปันผลที่ลดลงจากบริษัทย่อย โครงสร้างเงินทุนของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นโดยลำดับ โดยส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 10,415 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2553 มาอยู่ที่ 19,071 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2554 จากความสำเร็จในการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคม 2554 และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ปรับตัวดีขึ้น โดยลดลงมาอยู่ที่ 51.99% ณ เดือนมิถุนายน 2554 จาก 69.12% ณ เดือนธันวาคม 2553

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทยซึ่งส่งผลทำให้มีการปิดโรงงานประกอบรถยนต์หลายแห่งอาจทำให้ความต้องการยางธรรมชาติลดลงในระยะสั้นถึงปานกลาง ถึงแม้ปัญหาอุทกภัยในประเทศไทยจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ปลูกยางและโรงงานแปรรูปยางธรรมชาติเนื่องจากพื้นที่ปลูกยางและโรงงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ของประเทศ แต่การปิดโรงงานประกอบรถยนต์และภาคการค้าที่ชะลอตัวลงอาจส่งผลทำให้การส่งมอบยางธรรมชาติในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ชะลอตัวลง ในส่วนของอุปทานยางธรรมชาตินั้น ฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่อาจส่งผลทำให้ปริมาณยางธรรมชาติจากประเทศไทยลดลงในไตรมาสดังกล่าวเช่นกัน — จบ

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                        คงเดิมที่ระดับ A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559	A-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                        Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ