ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & ตราสารหนี้ “บ. กรุงเทพดุสิตเวชการ” เป็น “A+” จาก “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday November 10, 2011 09:35 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการรองรับและให้บริการผู้ป่วย ตลอดจนเครือข่ายของบริษัทที่ขยายยิ่งขึ้นหลังการควบรวมกับกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและกลุ่มโรงพยาบาลเปาโลซึ่งแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงความเป็นผู้นำธุรกิจของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ตลอดจนคณะผู้บริหาร รวมถึงบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีความสามารถและมากประสบการณ์ รวมทั้งบริการที่มีคุณภาพในระดับสูง และเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการลงทุนในอนาคตของบริษัทที่อาจจะใช้เงินทุนจากการกู้ยืม ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถคงความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลที่แข็งแกร่งของบริษัทจะสามารถดึงดูดผู้ป่วยให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นและคงผลประกอบการที่เข้มแข็งเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับสภาพคล่องให้เพียงพอ โดยการลงทุนหรือการซื้อกิจการใดใดในอนาคตควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อคงความแข็งแกร่งทางการเงินเอาไว้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการก่อตั้งในปี 2512 เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศและอาเซียน ด้วยจำนวนเตียงผู้ป่วยทั้งสิ้น 3,929 เตียง บริษัทมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งภายใต้ชื่อกลุ่มโรงพยาบาลต่าง ๆ ปัจจุบันบริษัทมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 28 แห่งภายใต้ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลในประเทศที่เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลาย 5 ตราสัญลักษณ์ และภายใต้ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลต่างประเทศอีก 1 ตราสัญลักษณ์ โดยมีโรงพยาบาลที่ประกอบกิจการภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 14 แห่ง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลสมิติเวช 3 แห่ง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลบีเอ็นเอช 1 แห่ง และอีก 2 แห่งภายใต้ชื่อ Royal International Hospital ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลอีก 2 ตราคือ โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลเปาโลเข้ามารวมในกลุ่มบริษัทเมื่อเดือนเมษายน 2554 เครือข่ายที่แข็งแกร่งนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยขยายแหล่งรายได้ของบริษัทตลอดจนฐานลูกค้าจนครอบคลุมกลุ่มคนไข้ระดับกลางถึงระดับบนในหลากหลายทำเลมากยิ่งขึ้น ส่วนในด้านคุณภาพนั้น โรงพยาบาลในเครือของบริษัทจำนวน 7 แห่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Joint Commission International (JCI) ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ (ซึ่งรวมโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ และโรงพยาบาลวัฒโนสถ) โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

ทริสเรทติ้งกล่าวว่าความได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการมาจากความหลากหลายทั้งในด้านบริการ ฐานลูกค้า และทำเลที่ตั้ง บริษัทเป็นศูนย์รวมของบุคลากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ พยาบาล พนักงานคลังยาและเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังมีเครือข่ายระบบส่งต่อผู้ป่วยที่แข็งแกร่งที่สุด โรงพยาบาลหลายแห่งในกลุ่ม เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโลมีตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็งตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในด้านการบริหารต้นทุนนั้น บริษัทคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดซึ่งเป็นผลจากการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือทางการแพทย์หลักร่วมกัน โรงพยาบาลในกลุ่มเน้นรักษาและให้บริการระดับตติยภูมิซึ่งจะช่วยปรับเพิ่มรายได้และการใช้เครื่องมืออุปกรณ์และบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ การนำระบบบริหารเงินโดยการทำ Cash Pooling มาใช้กับโรงพยาบาลในกลุ่มยังช่วยลดระดับความต้องการเงินกู้ระยะสั้นในแต่ละโรงพยาบาลและลดต้นทุนทางการเงินของกลุ่มโดยรวมลงด้วย

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทเข้มแข็งยิ่งขึ้น บริษัทมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลในปี 2553 อยู่ที่ 23,513 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมที่ 11% ในช่วงปี 2549-2553 รายได้สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 15,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยและการรวมรายได้จากกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 เข้ามา รายได้จากผู้ป่วยประมาณ 53%-55% มาจากผู้ป่วยใน และที่เหลือมาจากผู้ป่วยนอก ส่วนรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองมีมากกว่า 70% ของรายได้รวม กระแสเงินสดของบริษัทยังคงแข็งแกร่งและเติบโตเรื่อยมา อัตรากำไรจากการดำเนินงานค่อนข้างเสถียรอยู่ที่ระดับ 20%-22% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดว่าการทำกำไรของบริษัทในอนาคตจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมต้นทุนและการเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์และบริการที่ใช้ร่วมกันภายในกลุ่ม การประหยัดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการรวมกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะปรากฏผล

ภาระหนี้ของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 อยู่ที่ 17,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 10,751 ล้านบาท ณ ปลายปี 2553 เนื่องจากบริษัทได้รับเอาภาระหนี้ของกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลเข้ามาหลังการควบรวม อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงจาก 39.8% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 36.7% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 เนื่องจากบริษัทมีฐานทุนที่ใหญ่ขึ้นจากการออกหุ้นใหม่จำนวน 299.4 ล้านหุ้นเพื่อแลกหุ้นกับกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล นอกจากนี้ ภาระหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทก็เป็นเงินในสกุลบาทที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีความเสี่ยงในด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน แผนการลงทุนในอนาคตของบริษัทเน้นการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาล เช่น บริษัทยาและบริษัทเวชภัณฑ์ บริษัทชะลอแผนลงทุนในการก่อสร้างโรงพยาบาลในกรุงพนมเปญเพราะมีปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยหลายประการ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในช่วง 3 ปีข้างหน้าประมาณปีละ 4,200-4,800 ล้านบาทเพื่อใช้จัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งเพื่อใช้ปรับปรุงอาคารเป็นหลัก แม้การมีฐานสินทรัพย์ขนาดใหญ่ทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินทุนถาวรค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่ง แต่รายได้และกำไรของแต่ละโรงพยาบาลในกลุ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและทำให้รายได้ของบริษัทมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลในเครือของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการน้อยมาก จำนวนผู้ป่วยนอกที่คาดว่าจะลดลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 จะได้รับการชดเชยด้วยจำนวนผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้นจากการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่นที่ถูกน้ำท่วม และคาดว่าผลกระทบจากอุทกภัยจะมีเพียงชั่วคราว อุปสงค์จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากความเสียหายจากอุทกภัยได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำประกันคุ้มครองสำหรับทุกโรงพยาบาลในกลุ่มซึ่งครอบคลุมทั้งการสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินรวมถึงประกันภัยกรณีธุรกิจหยุดชะงักด้วย — จบ

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH)
อันดับเครดิตองค์กร:	                              เพิ่มเป็น A+ จาก A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BGH133A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 	เพิ่มเป็น A+ จาก A
BGH143A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 	เพิ่มเป็น A+ จาก A
BGH146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	เพิ่มเป็น A+ จาก A
BGH153A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 	เพิ่มเป็น A+ จาก A
BGH166A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559	เพิ่มเป็น A+ จาก A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                              Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2554  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ