บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงแบรนด์ของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน ตลอดจนกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของสินค้า และคอนโดมิเนียมที่รอการส่งมอบจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในโครงการคอนโดมิเนียม “โนเบิล เพลินจิต“ มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัท รวมถึงภาระหนี้จำนวนมากซึ่งเกิดในระหว่างการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าว ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานด้วย ในขณะที่ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยส่วนที่เหลือได้ตามกำหนด อีกทั้งกระแสเงินสดก็จะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการ แม้จะมีความต้องการเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อใช้ในโครงการ “โนเบิล เพลินจิต” แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับ ณ ปัจจุบันในระหว่างการพัฒนาโครงการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ อัตราการขายโครงการ “โนเบิล เพลินจิต” ควรสอดคล้องกับอัตราการขายโครงการในอดีตของบริษัท นอกจากนี้ การก่อสร้างควรแล้วเสร็จตามแผนการที่วางไว้โดยไม่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อรักษาอันดับเครดิตเอาไว้ที่ระดับปัจจุบันเนื่องจากเงินลงทุนจำนวนมากที่บริษัทใช้ในโครงการนี้ส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางซึ่งก่อตั้งในปี 2534 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2539 ตระกูลธนากิจอำนวยและเครือญาติยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2554 มีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 13% บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจากแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยหันมานิยมการมีที่พักอยู่ในเมืองมากขึ้น ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย 17 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 12,700 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบในช่วงที่เหลือของปี 2554 จนถึงปี 2560 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12,200 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยในโครงการของบริษัทประกอบด้วยคอนโดมิเนียมซึ่งคิดเป็น 82% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด บ้านเดี่ยว 8% ทาวน์เฮ้าส์ 7% และที่ดินเปล่า 3% การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้โครงการของบริษัทมีความแตกต่างไปจากโครงการของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น
ทริสเรทติ้งกล่าวถึงยอดขายของบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ว่าเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากถึง 7,689 ล้านบาท โดยเพิ่มเป็นกว่า 2 เท่าของยอดขายในช่วงเดียวกันของปี 2553 เนื่องจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่คือ “โนเบิล เพลินจิต” โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ยอดขายของโครงการ “โนเบิล เพลินจิต” อยู่ที่ 43% ของมูลค่าโครงการ ในขณะที่รายได้รวมของบริษัทในปี 2553 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่จำนวน 5,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,938 ล้านบาทในปี 2552 ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้มาจากสาเหตุหลักคือการโอนคอนโดมิเนียมโครงการ “โนเบิล รีมิกซ์” “โนเบิล โซโล” และ “โนเบิล รีเฟล็กซ์” อย่างไรก็ตาม รายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ลดลงอย่างมากเป็น 2,228 ล้านบาท จาก 4,062 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 อันเนื่องมาจากมีปริมาณการโอนที่ลดลง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก็ลดลงจาก 27.66% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 22.28% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เนื่องจากการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลในช่วงกลางปี 2553 โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนสูงกว่าผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รายอื่น โดยอัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 62.87% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 จาก 57.53% ในปี 2553 และ 54.07% ในปี 2552 ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในโครงการ “โนเบิล เพลินจิต”
ผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ลุกลามสู่พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ทำให้คาดว่ายอดขายที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง โดยเฉพาะในทำเลที่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้งนี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมเพียงเล็กน้อยเนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน อย่างไรก็ตาม ยอดขายและปริมาณการโอนของบริษัทคาดว่าจะชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 โดยผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายโดยเฉพาะรายที่เน้นทำโครงการแนวราบอาจมีรายได้ที่เติบโตลดลงหรือประสบกับภาวะขาดทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ทั้งนี้ นโยบายสนับสนุนด้านภาษีและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปลอดดอกเบี้ยของรัฐบาลอาจไม่มีผลกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาสต่อ ๆ ไปข้างหน้าเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถดถอยลง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังคงมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนแรงกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลมีผลบังคับใช้ และภาระหนี้ของผู้ประกอบการที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: NOBLE146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html