บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งความยืนหยุ่นทางการเงินจากมูลค่าเงินลงทุนเชิงกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากความผันผวนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตลอดจนความเสี่ยงของสัญญาที่มีลักษณะต่อหน่วยแบบคงที่ (Fixed-price Contract) และภาระหนี้ที่สูงของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2555 ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถลดภาระหนี้และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาโครงสร้างทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะปานกลางต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทยังคงลงทุนต่อเนื่องในโครงการไซยะบุรีโดยที่ยังไม่ได้รับผลตอบแทนที่จะลดสัดส่วนลูกหนี้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระได้ หรือในกรณีที่บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเกินกว่า 2.5 เท่า
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัท ช. การช่าง ก่อตั้งในปี 2515 โดยตระกูลตรีวิศวเวทย์ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จำนวน 3 รายในตลาดหลักทรัพย์และมีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างตั้งแต่งานโยธาโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงโครงการที่มีความซับซ้อนสูง ประสบการณ์ที่หลากหลายดังกล่าวเมื่อรวมกับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำจากต่างประเทศแล้วนับเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้แก่บริษัททั้งในด้านการประมูลงานและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง บริษัทมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน 3 ราย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) และ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW) นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุนในบริษัทอื่นอีกหลายรายที่ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าและมีโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งจากสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่หน่วยงานภาครัฐ บริษัทได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอประมาณปีละ 550 ล้านบาทจากการลงทุนใน BECL และ TTW ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงจากลักษณะผันผวนของรายได้ที่มาจากธุรกิจก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ BMCL และแผนการลงทุนต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทในปัจจุบัน
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า คุณภาพงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบของบริษัท ช. การช่าง ปรับตัวดีขึ้นโดยลำดับ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบมูลค่า 30,809 ล้านบาท และในเดือนธันวาคม 2554 บริษัทได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ โครงการในมือของบริษัทยังมีความหลากหลายมากขึ้น โดยโครงการที่มีมูลค่าสูงสุดคิดเป็นสัดส่วน 29% ของมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบทั้งหมด ทริสเรทติ้งคาดว่ามูลค่างานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากบริษัทได้รับงานโครงการเขื่อนไซยะบุรีในประเทศลาวซึ่งมีมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท
ในระยะปานกลาง บริษัทมีแนวโน้มรายได้ที่ดีจากการมีมูลค่างานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบจำนวนมากและโครงการที่รอลงนามในสัญญา ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ระหว่าง 1.5-1.8 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2555-2557 อัตราส่วนกำไรก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทติดลบมาตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากการปรับเพิ่มต้นทุนโครงการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2555 จากรายได้ที่จะมาจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งบริษัทได้ตกลงราคาวัสดุก่อสร้างหลัก ๆ ไว้แล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทน่าจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 5% นับจากปี 2555 เป็นต้นไป
ทริสเรทติ้งกล่าวถึงภาระหนี้ของบริษัท ช. การช่าง ว่าอยู่ในระดับสูง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 76.8% ซึ่งภาระหนี้ที่สูงดังกล่าวเป็นผลมาจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทและการให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านการให้กู้ยืมแก่ BMCL ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทน่าจะปรับลดอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ต่ำกว่า 70% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าได้ค่อนข้างยากเมื่อพิจารณาถึงแผนการลงทุนในอนาคตของบริษัท
บริษัทมีอัตราส่วนทางการเงินด้านสภาพคล่องที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินจากมูลค่าหลักทรัพย์ที่บริษัทถือครองจำนวนมาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 เงินลงทุนของบริษัทมีมูลค่ายุติธรรมที่ 9.7 พันล้านบาท หรือประมาณ 45% ของภาระหนี้รวมของบริษัทที่ 2.3 หมื่นล้านบาท บริษัทมีเงินสดในมือ 5.6 พันล้านบาท และมีภาระหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 5 พันล้านบาท ปัจจุบันทริสเรทติ้งกำลังติดตามความคืบหน้าของสถานะเงินทุนหมุนเวียนที่มีความตึงตัวมากขึ้นหลังจากบริษัทได้ลงทุนไปประมาณ 4 พันล้านบาทในโครงการไซยะบุรีโดยยังไม่ได้รับผลตอบแทนในสัดส่วนที่สอดคล้องกัน ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีลูกหนี้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระปรับตัวสูงขึ้นจาก 3.8 พันล้านบาทในปี 2552 มาอยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB อันดับเครดิตตราสารหนี้: CK122A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,616.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ BBB CK126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ BBB CK13OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ BBB CK142A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 883.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ BBB CK143A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ BBB CK154A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ BBB CK167A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ BBB CK187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 คงเดิมที่ BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html