ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ถิรไทย” ที่ระดับ “BBB+/Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday February 22, 2012 08:30 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศ ตลอดจนความสามารถในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายที่มีกำลังไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าที่หลากหลาย รวมทั้งฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทได้รับแรงหนุนจากสัญญาการใช้ลิขสิทธ์ของ Siemens Transformers Austria GmbH & Co KG จากประเทศออสเตรียซึ่งช่วยสนับสนุนในเรื่องการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์และการเป็นแหล่งอ้างอิงในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังเป็นหลัก ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงแนวโน้มการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้า ศักยภาพการเติบโตในตลาดส่งออกหลายแห่ง และอุปสรรคที่ค่อนข้างสูงในการเข้าสู่ตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงที่รายได้มากกว่า 1 ใน 3 ของบริษัทต้องพึ่งพิงลูกค้าในภาครัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้า รวมถึงการพึ่งพาตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศสำหรับตลาดส่งออก ความต้องการแหล่งอ้างอิงในการเข้าตลาดใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะที่ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย โดยบริษัทควรสำรองสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ให้เพียงพออยู่เสมอ นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็ไม่ควรเพิ่มสูงเกินกว่า 50% แม้จะมีการลงทุนในอนาคต

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทถิรไทยก่อตั้งในปี 2530 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Market for Alternative Investment - mai) ในเดือนพฤษภาคม 2549 โดย ณ เดือนพฤศจิกายน 2554 มีนายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และมีคณะผู้บริหารหลักเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวมกัน 34% บริษัทถิรไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศจำนวน 2 รายที่ผลิตทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังที่มีกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 5-300 เมกะโวลต์แอมแปร์ที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 230 กิโลโวลต์และหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายที่มีกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 1 กิโลโวลต์แอมแปร์ถึง100 เมกะโวลต์แอมแปร์ที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 36 กิโลโวลต์ รายได้รวมของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 มาจากยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายในสัดส่วน 66% หม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง 31% และรายได้จากการขายอุปกรณ์หม้อแปลงไฟฟ้าและงานบริการอีก 3% ฐานลูกค้าของบริษัทประกอบด้วยกลุ่มรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า (46% ของรายได้รวม) บริษัทเอกชน (35%) และลูกค้าภาคการส่งออก (16%)

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทถิรไทยเป็น 1 ในผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังทั้ง 4 ราย และเป็น 1 ใน 2 รายที่สามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังที่มีกำลังไฟฟ้า 300 เมกะโวลต์แอมแปร์ด้วยแรงดันไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ การแข่งขันในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังมีความรุนแรงน้อยกว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายเนื่องจากรูปแบบทางวิศวกรรมที่มีความซับซ้อนมากกว่า กลุ่มผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้ากำลังเป็นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงหรือธุรกิจที่ต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่มีการออกแบบทางวิศวกรรมโดยเฉพาะ ดังนั้น ความน่าเชื่อถือและคุณภาพจึงเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง รวมถึงผลงานในอดีตและแหล่งอ้างอิงจึงได้รับการกำหนดให้เป็นเงื่อนไขที่จำเป็น ตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายมีการแข่งขันสูงในด้านราคาเนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อนน้อยกว่าและมีผู้ผลิตจำนวนมาก สำหรับตลาดในประเทศนั้น รัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าเป็นผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าโดยตรงและเป็นผู้ใช้รายสำคัญเนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าและระบบสายส่งของประเทศ โดยปกติรัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าจะจัดสรรงบประมาณประจำปีเพื่อพัฒนาสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสถานีไฟฟ้าย่อย รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบสายส่ง ส่วนผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าอื่น ๆ เป็นกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่มีหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบสำคัญในโรงงาน ดังนั้น ความต้องการในอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าจึงขึ้นอยู่กับการใช้ไฟฟ้าด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าถือว่าค่อนข้างผันผวนซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน

ยอดรับคำสั่งซื้อของบริษัทถิรไทยลดลง 14% เป็น 1,122 ล้านบาทในปี 2553 จาก 1,305 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2551 และการประกาศระงับโครงการอุตสาหกรรมในเขตมาบตาพุดเมื่อเดือนกันยายน 2552 นอกจากนี้ ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ยังทำให้เกิดภาวะชะลอการลงทุน ส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปี 2553 เท่ากับ 1,492 ล้านบาท ลดลง 33% จาก 2,223 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งเป็นผลจากการมียอดรับคำสั่งซื้อที่ต่ำในช่วงปี 2552-2553 อย่างไรก็ตาม ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้ากลับมาปรับตัวดีขึ้นในปี 2554 โดยยอดรับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,821 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งสูงกว่ายอดรับคำสั่งซื้อในปี 2553 และ 2552 ทั้งปี ประมาณ 60% ของยอดรับคำสั่งซื้อในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 มาจากหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย ดังนั้น รายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้น 26% เป็น 1,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,132 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2553 ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 บริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบจำนวน 924 ล้านบาท โดยประมาณครึ่งหนึ่งมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ดังนั้น รายได้ของบริษัทจึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในช่วง 14%-16% จากปี 2550 จนถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ปรับตัวดีขึ้นจาก 10%-13% ในช่วงปี 2545-2549 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการกำหนดราคาและการยืนราคาในระยะเวลาที่สั้นลง กระแสเงินสดของบริษัทยังคงแข็งแกร่งโดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมดีขึ้นเป็น 63.03% ในปี 2553 จาก 48.92% ในปี 2552 และ 49.76% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้นจาก 42.79% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วงเดียวกันของปี 2553 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้โดยน้อยกว่า 50% ในช่วงปี 2550 จนถึง 9 เดือนแรกของปี 2554 ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) (TRT)

อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ rapee@tris.co.th โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ