บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้เป็นเงินสำรองเพื่อชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนสิงหาคม 2555 อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการเติบโตที่สม่ำเสมอของปริมาณการจราจรบนทางด่วน การมีกระแสเงินสดที่แน่นอน ประโยชน์จากการเป็นทางด่วนเพียงระบบเดียวที่เชื่อมต่อกับระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร และการมีคณะผู้บริหารที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐด้านระบบการขนส่งในอนาคต การแทรกแซงของรัฐในการปรับอัตราค่าผ่านทางด่วน และการลงทุนขนาดใหญ่ในสัมปทานทางด่วนใหม่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทที่ทรงตัวตลอดอายุสัญญาสัมปทาน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีความระมัดระวังในการจ่ายเงินปันผลและการลงทุนในอนาคตเพื่อที่จะยังคงรักษาสภาพคล่องและความสามารถในการชำระหนี้เอาไว้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททางด่วนกรุงเทพเป็นผู้ก่อสร้างและบริหารโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 หรือโครงการทางพิเศษศรีรัชและโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) หรือทางด่วนส่วน C+ โดยได้รับสัมปทานในระบบ Build-Transfer-Operate (BTO) ระยะเวลา 30 ปีจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนต่อขยายของทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางด่วนส่วน C+ จะหมดอายุในปี 2563 ปี 2570 และปี 2569 ตามลำดับ ทางด่วนขั้นที่ 2 เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) นี้ที่ก่อสร้างและบริหารโครงการโดย กทพ. ก่อให้เกิดเส้นทางเชื่อมต่อจากใจกลางกรุงเทพฯ ไปยังทิศเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ เป็นโครงข่ายถนนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนเมื่อการจราจรบนถนนปกติในใจกลางกรุงเทพฯ และชานเมืองมีปัญหาติดขัด โดยบริษัทและ กทพ. มีการแบ่งรายได้ในเขตเมืองสำหรับทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนขั้นที่ 2 ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 เป็นต้นมา สัดส่วนการแบ่งรายได้ระหว่างบริษัทกับ กทพ. ได้เปลี่ยนจาก 50:50 เป็น 40% เป็นของบริษัท และ 60% เป็นของ กทพ. สำหรับในเขตนอกเมืองและทางด่วนส่วน C+ นั้นบริษัทไม่ต้องแบ่งรายได้แก่ กทพ.
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ปริมาณการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7% ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา (2544-2554) ในปี 2554 ปริมาณจราจรบนทางด่วนโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,024,867 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนแม้จะเกิดวิกฤตการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในเขตกรุงเทพฯ และปทุมธานีเมื่อปลายปี 2554 อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าผ่านทางโดยเฉลี่ยต่อวันของบริษัททางด่วนกรุงเทพลดลง 6.42% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 20.02 ล้านบาทซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งรายได้ระหว่างบริษัทกับ กทพ.ทริสเรทติ้งคาดว่าในระยะปานกลางปริมาณจราจรบนทางด่วนจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอันเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยออกไปในเขตปริมณฑล และการจราจรที่ติดขัดบนถนนปกติ อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและความเป็นไปได้ที่ กทพ. อาจผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ใช้ทางด่วนอาจส่งผลให้อัตราการเติบโตของปริมาณจราจรบนทางด่วนในปี 2555 ชะลอตัวลง
บริษัททางด่วนกรุงเทพมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แน่นอนแม้ความแข็งแกร่งดังกล่าวจะลดทอนโดยภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงก็ตาม บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ในระดับที่สูงกว่า 80% โดยมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,603 ล้านบาทในปี 2554 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 4,867 ล้านบาทในปี 2553 อันเป็นผลมาจากปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่เพิ่มสูงขึ้นและการที่บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึงแม้ว่าในปี 2554 จะมีการปรับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางในเขตเมืองให้แก่ กทพ. เพิ่มมากขึ้นก็ตาม ภาระหนี้ของบริษัทมีการปรับลดลงมาโดยตลอดจากเกือบ 30,000 ล้านบาทในปี 2549 มาอยู่ที่ 19,044 ล้านบาทในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในระยะปานกลางทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเมื่อพิจารณาจากแผนการลงทุนของบริษัท โดยบริษัทมีแผนการลงทุนใน 2 โครงการ ซึ่งได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำและส่วนขยายทางด่วน โดยทั้ง 2 โครงการจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 26,000 ล้านบาทในระยะ 5 ปีข้างหน้า แหล่งเงินทุนที่ใช้คาดว่าจะเป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เงินกู้จากสถาบันการเงิน และการออกหุ้นกู้มากกว่าจะเป็นเงินกู้โครงการ ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้ายังไม่มีความแน่นอน ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการทางด่วนศรีรัชสายวงแหวนรอบนอกกับ กทพ. ภายในปีนี้ โดยการก่อสร้างมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2555 และแล้วเสร็จภายในปี 2559 ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการว่าจ้าง บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโดยเป็นการว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากต้นทุนค่าก่อสร้างที่อาจสูงขึ้นจากที่ได้ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากการก่อสร้างที่อาจล่าช้ากว่ากำหนดและความเสี่ยงในเรื่องปริมาณจราจรบนทางด่วน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูงได้เพื่อลดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของบริษัท ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html