บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดัง
กล่าวสะท้อนถึงกระแสเงินสดจาก
การดำเนินงานที่แน่นอนจากธุรกิจระบบขนส่งมวลชนและแนวโน้มการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารอันเนื่องมาจากการขยายโครงข่ายระบบรถไฟฟ้า นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่บริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานและแนวโน้มที่ดีในธุรกิจสื่อโฆษณา ทว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทมีโครงข่ายการให้บริการเพียงโครงข่ายเดียว รวมถึงการมีนโยบายจ่ายเงินปัน
ผลแบบเชิงรุก และฐานะทางการเงินที่อ่อนแอกว่าของบริษัทแม่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงมาตรฐานการให้บริการที่ดีเพื่อรักษากระแสเงินสดจากการ
ดำเนินงานให้อยู่ในระดับปัจจุบันเอาไว้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันจากการที่กลุ่มบริษัทมีโครงสร้างธุรกิจที่มีความเสี่ยงและมีรายได้ที่ผันผวนมากขึ้น
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพถูกควบรวมกิจการโดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส กรุ๊ป) ในเดือนพฤษภาคม 2553 โดย ณ เดือนธันวาคม 2554 มีสัดส่วน
การถือหุ้นจำนวน 96.4% บริษัทถือเป็นบริษัทย่อยและเป็นผู้สร้างกระแสเงินสดและกำไรรายสำคัญของบีทีเอส กรุ๊ป ดังนั้น สถานะเครดิตของบริษัทและบีทีเอส กรุ๊ป (ได้รับอันดับเครดิต “A” จากทริสเรทติ้ง) จึงมีความ
เกี่ยวข้องกันอย่างมาก
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพก่อตั้งในปี 2535 โดยเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ดำเนินกิจการระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย บริษัทได้รับสัมปทานเป็นเวลา 30 ปีจาก กทม. ในการ
ก่อสร้างและดำเนินการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงนามในสัญญากับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กทม. เพื่อ
ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า
บีทีเอสทั้งในสายสีลมและสายสุขุมวิทด้วย ภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน บริษัทได้รับสิทธิในการจัดเก็บรายได้
ค่าโดยสาร รวมทั้งการให้เช่าพื้นที่และการโฆษณาในสถานี (ยกเว้นในส่วนต่อขยาย) โดยมี บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (วีจีไอ โกลบอล) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ บริษัท วี จี ไอ
โกลบอลยังได้ขยายธุรกิจการให้บริการสู่ช่องทางธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Retail Trade) และ Hypermarket ด้วย
ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระบบรางยกระดับที่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ประกอบด้วยเส้นทาง 2 สายคือสายสีลมและสายสุขุมวิทซึ่งให้บริการในย่านสีลม สาทร และสุขุมวิท โดยมีสถานีเชื่อม
ต่อระหว่างกันที่สถานีสยาม บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพประสบปัญหาทางด้านการเงินมาตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการโดยมีสาเหตุจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูงกว่าประมาณการและการมีปริมาณผู้โดยสารที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้
เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ หากไม่นับรวมต้นทุนทางการเงิน บริษัทเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานในรอบปีบัญชี 2546 ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่ระดับ 100 ล้านคน ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2555 บริษัทให้บริการผู้
โดยสารทั้งสิ้น 128,009,656 คน เพิ่มขึ้น 20.93% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 463,808 คน จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทเมื่อวันที่ 12
สิงหาคม 2554 สำหรับเส้นทางเดินรถเดิมที่เปิดให้บริการอยู่แล้วนั้นจำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเป็นครั้งคราวไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมหรือความ
ไม่สงบทางการเมืองในกรุงเทพมหานครก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการขยายเส้นทางการให้บริการระบบรถไฟฟ้า ตลอดจนการขยายตัวของ
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวระบบรถไฟฟ้า
บีทีเอส การจราจรบนท้องถนนที่ติดขัด และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในประเทศ
บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สม่ำเสมอ รวมทั้งการมีสภาพคล่องที่เพียงพอ และการมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง บริษัทมีอัตรา
กำไรจากการดำเนินงานที่คงตัวในระดับ 58% มาตั้งแต่รอบปีบัญชี 2550 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้รับผลดีจากการปรับโครงสร้างหนี้ในปี 2551 ภาระหนี้ซึ่งรวมอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่บริหารจัดการ
ได้ สถานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างคงที่ในช่วงปีบัญชี 2553-2554 และปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2555 โดยบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานประมาณ 2,000 ล้านบาทในระหว่างปี 2553-2554 และเพิ่มขึ้นเป็น
2,615 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2555 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มสูงขึ้นจาก 15% ในปีบัญชี 2554 มาอยู่ที่ 20% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2555 (ยังไม่ได้ปรับ
อัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 3.8 เท่าถึง 5.3 เท่าในช่วงปีบัญชี 2553-2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อ
โครงสร้างเงินทุนคงที่ที่ระดับ 26.27% เมื่อเปรียบเทียบกับ 26.44% ณ เดือนมีนาคม 2554 โดยภาระหนี้ของบริษัทค่อนข้างคงที่ระหว่าง 12,000-13,000 ล้านบาทมาตั้งแต่ปีบัญชี 2553 ตามการคาดการณ์ของทริ
สเรทติ้ง ภาระหนี้ของบริษัทไม่น่าจะปรับลดลงมากนักในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากบริษัทมีแผนการลงทุนประมาณปีละ 1,000-4,000 ล้านบาทในช่วงระหว่างปีบัญชี 2556-2557 โดยเป็นการลงทุนเพื่อซื้อรถไฟฟ้าและ
ขยายธุรกิจสื่อโฆษณา นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงดำเนินนโยบายการจ่ายเงิน
ปันผลในเชิงรุกให้แก่บีทีเอส กรุ๊ปต่อไปเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและจ่ายชำระหนี้ ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: BTS128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ A BTS138A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A BTS148A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ A BTS158A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ A BTS168A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้ง หมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียง ความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัด อันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริ สเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผย แพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html