บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็น
บริษัทโฮลดิ้งส์ที่ลงทุนโดยการถือหุ้นในสัดส่วน 96.4% ใน บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับอย่างสม่ำเสมอจากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดัง
กล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทมีสัดส่วนเงินกู้ในระดับสูงและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ จากการที่ผลประกอบการส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการดำเนินงานของบริษัทระบบขนส่งมวลชน
กรุงเทพ ดังนั้น สถานะเครดิตของบริษัทจึงมีความเกี่ยวข้องกับคุณภาพเครดิตของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ได้รับอันดับเครดิต “A” จากทริสเรทติ้ง) อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดที่ใช้เป็นเงินทุน
หมุนเวียนในการดำเนินงานและชำระหนี้ของบริษัทต้องพึ่งพิงเงินปันผลจากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นอย่างมาก ดังนั้น ในกรณีที่บริษัทออกตราสารหนี้ใดใด ตราสารหนี้ดังกล่าวจะมีสถานะที่ด้อยสิทธิกว่าตราสารหนี้
ของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าธุรกิจรถไฟฟ้าบีทีเอสจะยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนและสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม หากธุรกิจ
หรือฐานะการเงินของกลุ่มตกต่ำหรือถดถอยลงซึ่งอาจเป็นผลจากการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นหรือมีการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นก็อาจส่งผลในทางลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ก่อตั้งในปี 2511 ภายใต้ชื่อเดิมคือ บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) ธุรกิจดั้งเดิมของบริษัทคือธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งบริษัทมีที่ดินส่วนใหญ่อยู่ในย่านถนน
บางนา-ตราด อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทซื้อกิจการของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพและปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทในช่วงปี 2553-2554 แล้วก็ทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ซึ่งถือหุ้นในบริษัทย่อยที่
ดำเนินธุรกิจ 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจขนส่งมวลชน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจให้บริการ โดยธุรกิจขนส่งมวลชนเป็นธุรกิจหลักซึ่งสร้างรายได้คิดเป็น 64% ของรายได้ทั้งหมดในช่วง 9 เดือนแรก
ของปีบัญชีสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2555 ตามมาด้วยธุรกิจสื่อโฆษณา 24% ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น รายได้ค่อนข้างผันผวนเนื่องจากไม่มีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมซึ่ง
อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ถนนพหลโยธินอยู่ 1 โครงการซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดย ณ เดือนธันวาคม 2554 การก่อสร้างมีความคืบหน้า 39%
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ประกอบธุรกิจให้บริการรถไฟฟ้าและสื่อโฆษณาผ่านบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพและ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (วีจีไอ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือ
หุ้นโดยตรงและโดยอ้อม โดยบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพได้รับสัมปทานการก่อสร้างและให้บริการระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสภายใต้สัญญาสัมปทาน 30 ปี (ธันวาคม 2542 ถึง ธันวาคม 2572) จากกรุงเทพมหานคร
(กทม.) ด้วยระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.5 กิโลเมตร ซึ่งให้บริการในเส้นทางย่านสีลม สาธร และสุขุมวิท ภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน บริษัทได้รับสิทธิในการจัดเก็บรายได้ค่าโดยสาร รวมทั้งการให้เช่าพื้นที่และ
โฆษณาในบริเวณสถานี นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงนามในสัญญาในการเป็นผู้รับจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงระบบในส่วนต่อขยายทั้งสายสีลมและสายสุขุมวิทกับ กทม. ด้วย โดย กทม. เป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้างส่วนต่อขยายดัง
กล่าว ณ เดือนธันวาคม 2554 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ในระดับสูงสุดที่ 507,689 เที่ยว บริษัทวีจีไอซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นผู้ให้บริการเช่าพื้นที่โฆษณาและร้านค้าบน
สถานีรถไฟฟ้าทั้งในและนอกตัวรถไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทวีจีไอยังขยายธุรกิจการขายพื้นที่ไปยังช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Retail Trade) เช่น เทสโก้โลตัส บิ๊กซี และบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้าด้วย โดยในช่วง 9
เดือนแรกของปีบัญชี 2555 บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมีรายได้ทั้งสิ้น 5,310 ล้านบาท เทียบกับ 3,869 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนจากผลของรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นในธุรกิจขนส่งมวลชน (31%) และธุรกิจสื่อ
โฆษณา (40%) ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้และกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพคิดเป็น 91% และ 100% ของตัวเลขรวมของกลุ่มบริษัทตามลำดับ
แม้ฐานะทางการเงินของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ แต่บริษัทก็มีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอกว่าเนื่องจากธุรกิจอื่นของบริษัทยังไม่เข้มแข็งและบริษัท
มีภาระหนี้ที่สูงกว่า หลังจากการปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จ ภาระหนี้ของบริษัทลดลงอย่างมากเหลือ 4,779 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2550 จาก 35,176 ล้านบาทในเดือนมีนาคม 2549 และลดลงอย่างต่อเนื่อง
เหลือ 2,313 ล้านบาทในเดือนมีนาคม 2553 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทได้ซื้อกิจการของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพในเดือนพฤษภาคม 2553 แล้ว ภาระหนี้ของบริษัทซึ่งเป็นงบการเงินรวมก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ถึง 23,628 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2554 ซึ่งรวมหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 10,000 ล้านบาทและภาระหนี้ของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพด้วย ภาระหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25,871 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2554 จาก
การกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการซื้อรถไฟฟ้าเพิ่ม ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 40.5% ภายใต้เงื่อนไขสัญญาของหุ้นกู้แปลงสภาพ ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 25 มกราคม 2556 ใน
กรณีดังกล่าวคาดว่าบริษัทไม่น่าจะมีปัญหาในการไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพซึ่งมีมูลค่า 10,000 ล้านบาทโดยใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินเนื่องจากปัจจุบันหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มวงเงินจากสถาบันการเงิน ทริ
สเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้ง หมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียง ความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัด อันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริ สเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผย แพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html