บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาทของ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ในขณะเดียวกันทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “BBB+” เช่นเดียวกันด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายแห่งใหม่และโรงงานตัวถังหม้อแปลงไฟฟ้ารวมมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และที่เหลืออีก 100 ล้านบาทจะใช้สำหรับการดำเนินงานของบริษัท อันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศ ตลอดจนความสามารถในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายซึ่งมีกำลังไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าที่หลากหลาย รวมทั้งสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทได้รับแรงหนุนจากสัญญาการใช้ลิขสิทธิ์ของ Siemens Transformers Austria GmbH & Co KG (Siemens) จากประเทศออสเตรียซึ่งช่วยสนับสนุนในเรื่องการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์และเป็นแหล่งอ้างอิงในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังเป็นหลัก ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนศักยภาพการเติบโตในตลาดส่งออกหลายแห่ง และอุปสรรคที่ค่อนข้างสูงในการเข้าสู่ตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงที่รายได้มากกว่า 1 ใน 3 ของบริษัทต้องพึ่งพิงลูกค้าในภาครัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้า รวมถึงการพึ่งพาตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศสำหรับตลาดส่งออก ความต้องการแหล่งอ้างอิงในการเข้าตลาดใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรให้คงที่เอาไว้ได้แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย โดยบริษัทควรสำรองสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ให้เพียงพออยู่เสมอ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะคงอยู่ในระดับเฉลี่ยแม้จะมีการลงทุนในอนาคตก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทถิรไทยก่อตั้งในปี 2530 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Market for Alternative Investment - mai) ในเดือนพฤษภาคม 2549 โดย ณ เดือนมีนาคม 2555 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทประกอบด้วยนายสัมพันธ์ วงษ์ปานซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและคณะผู้บริหารหลักซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนรวมกัน 34% บริษัทเป็น 1 ในผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศในจำนวน 2 รายที่ผลิตทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังที่มีกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 5-300 เมกะโวลต์แอมแปร์ที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 230 กิโลโวลต์และหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายที่มีกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 1 กิโลโวลต์แอมแปร์ถึง100 เมกะโวลต์แอมแปร์ที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 36 กิโลโวลต์ รายได้รวมของบริษัทในปี 2554 มาจากยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายในสัดส่วน 65% หม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง 32% และรายได้จากการขายอุปกรณ์หม้อแปลงไฟฟ้าและงานบริการอีก 3% ฐานลูกค้าของบริษัทประกอบด้วยกลุ่มรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า (44% ของรายได้รวม) บริษัทเอกชน (37%) และลูกค้าภาคการส่งออก (16%)
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทถิรไทยเป็น 1 ในผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังทั้งสิ้น 4 ราย และเป็น 1 ใน 2 รายที่สามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังที่มีกำลังไฟฟ้า 300 เมกะโวลต์แอมแปร์ด้วยแรงดันไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ การแข่งขันในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังมีความรุนแรงน้อยกว่าตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายเนื่องจากรูปแบบทางวิศวกรรมที่มีความซับซ้อนมากกว่า กลุ่มผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้ากำลังเป็นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงหรือธุรกิจที่ต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่มีการออกแบบทางวิศวกรรมโดยเฉพาะ ดังนั้น ความน่าเชื่อถือและคุณภาพจึงเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง รวมถึงผลงานในอดีตและแหล่งอ้างอิงจึงได้รับการกำหนดให้เป็นเงื่อนไขที่จำเป็น ส่วนตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายนั้นมีการแข่งขันสูงในด้านราคาเนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อนน้อยกว่าและมีผู้ผลิตจำนวนมาก สำหรับตลาดในประเทศนั้น รัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าเป็นผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าโดยตรงและเป็นผู้ใช้รายสำคัญเนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าและระบบสายส่งของประเทศ โดยปกติรัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าจะจัดสรรงบประมาณประจำปีเพื่อพัฒนาสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสถานีไฟฟ้าย่อย รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบสายส่ง ส่วนผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าอื่น ๆ เป็นกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่มีหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบสำคัญในโรงงาน ดังนั้น ความต้องการในอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าจึงขึ้นอยู่กับการใช้ไฟฟ้าด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าถือว่าค่อนข้างผันผวนเนื่องจากยอดสั่งซื้อหม้อแปลงใหม่ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน
รายได้ของบริษัทถิรไทยในปี 2553 เท่ากับ 1,492 ล้านบาท ลดลง 33% จาก 2,223 ล้านบาทในปี 2552 เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงปี 2552-2553 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศจนมีผลทำให้การลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าปรับตัวดีขึ้นอีกครั้งในปี 2554 โดยมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 2,137 ล้านบาทในปี 2554 ซึ่งสูงกว่ายอดสั่งซื้อในปี 2553 และ 2552 เป็นอย่างมาก ประมาณ 60% ของยอดสั่งซื้อในปี 2554 มาจากหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย ดังนั้นรายได้ของบริษัทในปี 2554 จึงเพิ่มขึ้น 24% เป็น 1,855 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสแรกของปี 2555 ยอดสั่งซื้อกลับลดลง 33% เป็น 467 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่รอการส่งมอบมูลค่า 1,129 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2555 นั้นมีกำหนดส่งมอบในปี 2555 ทั้งหมด ดังนั้นรายได้ส่วนหนึ่งของบริษัทในปี 2555 จึงมีความแน่นอน ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในช่วง 14%-16% ในช่วงปี 2550-2554 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจาก 10%-13% ในช่วงปี 2545-2549 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการกำหนดราคาและการยืนราคาในระยะเวลาที่สั้นลง กระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นโดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมดีขึ้นเป็น 59%-63% ในช่วงปี 2553-2554 จาก 49% ในปี 2552 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้โดยเท่ากับ 28.87% และ 33.33% ณ สิ้นปี 2553 และ 2554 ตามลำดับ ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html