ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป” ที่ระดับ “A-/Positive”

ข่าวทั่วไป Monday May 14, 2012 09:30 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแน้วโน้ม “Positive” หรือ “บวก” โดยอันดับเครดิตสะท้อนฐานะการเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในกลุ่มทิสโก้ ตลอดจนอำนาจการบริหารงานและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอผ่านการถือหุ้น 99.98% ในธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารทิสโก้อยู่ 1 ขั้นซึ่งสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่พึ่งพารายได้เงินปันผลจากธนาคารทิสโก้เป็นหลักและมีข้อจำกัดจากกฎเกณฑ์การจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ ตลอดจนระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี แหล่งที่มาของรายได้ซึ่งมีการกระจายตัว และความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงในการระดมเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากในเดือนสิงหาคม 2555 นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังได้รับแรงกดดันจากสัดส่วนภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นพร้อม ๆ กับการขยายตัวของสินทรัพย์ ตลอดจนภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเช่าซื้อ และธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจจำกัดโอกาสในการขยายธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มทิสโก้ได้ในอนาคต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนการคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในระยะกลาง นอกจากนี้ ยังสะท้อนระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีซึ่งจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงในช่วงภาวะธุรกิจขาลงจากความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจและการเงินในอนาคตได้ ทั้งนี้ ต้นทุนทางการเงินของบริษัทที่อาจสูงขึ้น รวมทั้งฐานเงินฝากที่อาจมีการเคลื่อนไหวภายหลังกฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ยังคงเป็นปัจจัยกังวล ทั้งนี้ อันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทจะขึ้นอยู่กับสถานะอันดับเครดิตของธนาคารทิสโก้เป็นสำคัญ

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในปี 2551 กลุ่มทิสโก้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรโดยได้จัดตั้งบริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ปขึ้นมาให้มีสถานะเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนและเป็นบริษัทใหญ่ของกลุ่มทิสโก้แทนธนาคารทิสโก้ณ เดือนธันวาคม 2554 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทได้แก่ CDIB & Partners Investment Holding Pte Ltd. ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 10% ส่วนที่เหลือถือหุ้นโดยนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ณ สิ้นปี 2554 บริษัทมีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 10 จากธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 15 แห่ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 2.3% และของเงินฝาก 0.5% บริษัทมีสินทรัพย์ในปี 2554 รวมทั้งสิ้น 220.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จาก 171.4 พันล้านบาทในปี 2553 รายได้ของบริษัทมีการกระจายตัวดีขึ้นโดยมีสัดส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมในปี 2554 คิดเป็น 19% ของรายได้รวม ในขณะที่ค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์ไทย 15 แห่งอยู่ที่ 17% ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทมาจากรายได้ของบริษัทย่อยได้แก่ ธนาคารทิสโก้ในสัดส่วนสูงสุดคิดเป็น 85% ของรายได้ดอกเบี้ยรวมรายได้ค่าธรรมเนียม ส่วนที่เหลืออีก 15% มาจากบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด และบริษัท ไฮเวย์ จำกัด

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ปยังคงมีความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดี ทั้งนี้ กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 13% จาก 2.9 พันล้านบาทในปี 2553 เป็น 3.3 พันล้านบาทในปี 2554 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยสำหรับปี 2554 เท่ากับ 1.7% และ 21.0% ตามลำดับซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 1.9% และ 21.1% ในปี 2553 แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทย 15 แห่งที่ระดับ 1.3% และ 12.8% ในปี 2554 บริษัทมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นและการแข่งขันระดมเงินทุนที่ค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถคงผลประกอบการในระดับที่ดีไว้ได้ด้วยการควบคุมต้นทุนการตั้งสำรองหนี้สูญและต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

ในด้านคุณภาพของสินทรัพย์นั้น บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ปมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีด้วยการบริหารความเสี่ยงแบบรวมกลุ่มและเป็นแบบรวมศูนย์ซึ่งส่งผลให้สินทรัพย์ของบริษัทยังคงมีคุณภาพดี โดย ณ สิ้นปี 2554 บริษัทมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้คิดเป็น 1.2% ของสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำรงเงินกองทุนและสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ประกอบด้วย เงินให้สินเชื่อจัดชั้นค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์สินรอการขาย) ในปี 2554 บริษัทมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพคิดเป็น 0.15 เท่าของเงินกองทุนซึ่งรวมสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ปรับตัวดีขึ้นจาก 0.19 เท่าในปี 2553 อีกทั้งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระบบซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.51 เท่า

บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ปได้พัฒนาคุณภาพบุคลากรด้านบริหารจนมีความเชี่ยวชาญและมีวิธีการบริหารงานแบบระมัดระวังซึ่งทำให้บริษัทสามารถให้การสนับสนุนบริษัทย่อยให้สามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันเอาไว้ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาปรับปรุงระบบบริหารความเสี่ยงแบบรวมกลุ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงทั้งในธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจหลักทรัพย์อาจเป็นปัจจัยที่จำกัดการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มทิสโก้ได้ในอนาคต ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html




เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ