บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตระดับ “A” สะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงวิกฤติภาวะหนี้ในยุโรปที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าได้ต่อไป การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคการลงทุนจะส่งผลให้ความต้องการพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศโดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนมีนาคม 2555 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 122 แห่ง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 58 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 569,716 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงปี 2548-2553 รายได้หลักของบริษัท (65%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ 27% ของรายได้มาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2548-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลดลงเหลือ 944 ล้านบาทในปี 2554 เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ เดือนพฤษภาคม 2555 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.5%) กลุ่มผู้บริหารของบริษัท (7.3%) และกลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.4%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวในทำเลต่าง ๆ 10 แห่งและคลังสินค้าให้เช่าอีก 6 แห่ง ณ เดือนธันวาคม 2554 รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย บริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 64.6% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (12.4%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (10.6%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (6.5%) และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (5.9%)
แม้ว่าความต้องการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดหลังน้ำท่วม แต่ความต้องการโรงงานในทำเลที่ไม่มีปัญหาน้ำท่วมยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ณ ไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นมีพื้นที่ให้เช่ารวม 569,716 ตร.ม. คิดเป็นการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ให้เช่าสุทธิจำนวน 12,574 ตร.ม. ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ให้เช่าสุทธิประกอบด้วยการเพิ่มขึ้นของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า 19,649 ตร.ม. ในขณะที่พื้นที่โรงงานให้เช่าลดลง 7,075 ตร.ม. ซึ่งเป็นผลมาจากการยกเลิกสัญญาของลูกค้าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเป็นหลัก โดยมีลูกค้าที่ยกเลิกสัญญาจำนวน 12 รายด้วยพื้นที่เช่ารวม 27,025 ตร.ม.
สำหรับผลประกอบการในปี 2554 นั้น แม้ว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้ค่าเช่ารวม 100 ล้านบาทจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แต่รายได้ค่าเช่ารวมของบริษัทในปี 2554 ยังคงเพิ่มขึ้น 3% เป็น 880 ล้านบาทจาก 851 ล้านบาทในปี 2553 อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2554 ลดลงเป็น 436 ล้านบาท หรือลดลง 47% จากปี 2553 เนื่องจากความล่าช้าของแผนการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ไปเป็นปี 2555 รวมทั้งการที่บริษัทบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนการลดลงของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศ ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 30% จาก 1,817 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 1,269 ล้านบาทในปี 2554
ในไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 997 ล้านบาท โดยมาจากการขายสินทรัพย์เข้า TFUND จำนวน 762 ล้านบาท ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น 49% บริษัทมีกำไรสุทธิ 241 ล้านบาท พื้นที่โรงงานให้เช่าที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่ของบริษัทได้รับการซ่อมแซมและส่งมอบให้กับลูกค้า ในไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทมีรายได้ค่าเช่า 214 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับไตรมาสเดียวกันของปี 2553 แต่เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้ค่าเช่าของบริษัทจะกลับสู่ภาวะปกติในครึ่งปีหลังของ 2555
ภาระหนี้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 6,176 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 9,499 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2555 เนื่องจากความล่าช้าของการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายกิจการของบริษัท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นจาก 52.5% ณ สิ้นปี 2553 เป็น 61.4% ณ เดือนมีนาคมปี 2555 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนดังกล่าวคาดว่าจะดีขึ้นถ้าบริษัทสามารถขายสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาทเข้ากองทุนและประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนในครึ่งปีหลังของปี 2555 ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TICON128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ A TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ A TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ A TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 คงเดิมที่ A TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 คงเดิมที่ A หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html