บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สยามพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) รวมทั้งอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันและตั๋วแลกเงินในปัจจุบันของบริษัทในระดับเดิมที่ "A-" ในขณะเดียวกันได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,250 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "A-" พร้อมแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดเช่าซื้อรถยนต์และประสบการณ์ของคณะผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเช่าซื้อรถยนต์ทั้งประเภทรถยนต์ใหม่และรถยนต์เก่า รวมทั้งความผันผวนของราคาน้ำมันซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อการขายรถยนต์
โดยที่ แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความสามารถในการดำรงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดและสามารถรักษาระดับการขยายตัวของสินเชื่อต่อไปได้ตามความคาดหมายของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ คณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่ระมัดระวังจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาปริมาณหนี้ค้างชำระในระดับที่ยอมรับได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า สินเชื่อรวมของบริษัทสยามพาณิชย์ลีสซิ่งเพิ่มขึ้น 5.1% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 โดยเพิ่มจาก 37,374 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 เป็น 39,257 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 ซึ่งอยู่ในระดับที่ผู้บริหารคาดการณ์อัตราการเติบโตของปี 2548 ที่ 20% อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิของไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 จะเพิ่มขึ้น 6.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2547 แต่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานก็เพิ่มขึ้นในไตรมาสเดียวกัน ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 6.2% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 18.0% ในไตรมาสที่ 1ของปี 2547 เป็น 20.1% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ซึ่งมีผลเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ส่งผลให้รถยนต์มือสองมีราคาลดลง บริษัทได้รับผลกระทบจากขาดทุนจากการจำหน่ายรถยึดโดยขาดทุนเพิ่มขึ้น 145% จาก 45 ล้านบาทในปี 2546 เป็น 110 ล้านบาทในปี 2547 ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแม้จะไม่มากเหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 10%-15% ในปี 2548 -- จบ
โดยที่ แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความสามารถในการดำรงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดและสามารถรักษาระดับการขยายตัวของสินเชื่อต่อไปได้ตามความคาดหมายของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ คณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่ระมัดระวังจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาปริมาณหนี้ค้างชำระในระดับที่ยอมรับได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า สินเชื่อรวมของบริษัทสยามพาณิชย์ลีสซิ่งเพิ่มขึ้น 5.1% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 โดยเพิ่มจาก 37,374 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 เป็น 39,257 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 ซึ่งอยู่ในระดับที่ผู้บริหารคาดการณ์อัตราการเติบโตของปี 2548 ที่ 20% อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิของไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 จะเพิ่มขึ้น 6.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2547 แต่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานก็เพิ่มขึ้นในไตรมาสเดียวกัน ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 6.2% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 18.0% ในไตรมาสที่ 1ของปี 2547 เป็น 20.1% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ซึ่งมีผลเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ส่งผลให้รถยนต์มือสองมีราคาลดลง บริษัทได้รับผลกระทบจากขาดทุนจากการจำหน่ายรถยึดโดยขาดทุนเพิ่มขึ้น 145% จาก 45 ล้านบาทในปี 2546 เป็น 110 ล้านบาทในปี 2547 ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแม้จะไม่มากเหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 10%-15% ในปี 2548 -- จบ