ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ชุดปัจจุบัน และจัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday August 8, 2012 09:31 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม วิกฤติหนี้ในยุโรปที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าได้ต่อไป แม้ธุรกิจโรงงานให้เช่าจะอ่อนตัวลงบ้างในช่วงนี้ แต่พื้นที่เช่ารวมของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้า

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนมิถุนายน 2555 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 110 แห่ง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 76 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 584,067 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงปี 2548-2553 รายได้หลักของบริษัท (65%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ 27% ของรายได้มาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2548-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลดลงเหลือ 944 ล้านบาทในปี 2554 เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ เดือนมิถุนายน 2555 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.5%) กลุ่มผู้บริหารของบริษัท (7.4%) และกลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.4%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวในทำเลต่าง ๆ 10 แห่งและคลังสินค้าให้เช่าอีก 7 แห่ง รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนมีนาคม 2555 บริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 62.2% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (13.5%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (10.7%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (7.1%) และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (6.5%)

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 แม้ว่าความต้องการพื้นที่โรงงานให้เช่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก แต่อัตราการย้ายออกของผู้เช่าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยมีสัดส่วนที่สูงกว่า ทำให้พื้นที่โรงงานให้เช่ารวมของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นลดลง หากไม่รวมการขายโรงงานให้เช่าพื้นที่รวม 35,725 ตร.ม. เข้า TFUND ในเดือนมีนาคม 2555 พื้นที่โรงงานให้เช่าของบริษัทจะลดลงในอัตรา 21% จาก 387,515 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2554 เป็น 342,165 ตร.ม. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ในทางตรงกันข้าม ความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเติบโตอย่างมาก โดยพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเติบโต 35% จาก 205,352 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2554 เป็น 277,627 ตร.ม. ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้าช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจโรงงานให้เช่าที่อ่อนตัวลง หากไม่นับรวมการขายสินทรัพย์เข้า TFUND ในเดือนมีนาคม 2555 บริษัทมีพื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขี้นสุทธิ 5% หรือเพิ่มขี้น 26,925 ตร.ม. ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2555

แม้บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นจะสูญเสียรายได้ค่าเช่าจำนวน 73 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 จากเหตุอุทกภัย แต่รายได้ค่าเช่ารวมของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้รวม 1,303 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 116% ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 762 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ลดลงจาก 67% ในครึ่งแรกของปี 2554 เป็น 51% ในครึ่งแรกของปีนี้โดยมีสาเหตุหลักมาจากโครงสร้างรายได้ที่ไม่เหมือนกัน โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการให้เช่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีต้นทุนการให้เช่าเพิ่มขึ้นจำนวน 52 ล้านบาทจากค่าซ่อมแซมโรงงานและคลังสินค้าที่ประสบอุทกภัย

ภาระหนี้รวมของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเพิ่มขึ้นจาก 6,176 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 10,476 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 การเพิ่มขี้นของภาระหนี้เป็นผลมาจากความต้องการเงินทุนในการขยายกิจการของบริษัทเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันออก ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 63.9% ณ เดือนมิถุนายน 2555 จาก 52.5% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนดังกล่าวคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหากบริษัทสามารถขายสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 3,500-3,700 ล้านบาทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และเพิ่มทุนประมาณ 976 ล้านบาทได้สำเร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555

การฟื้นตัวของภาคการผลิตหลังอุทกภัยช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น มูลค่าโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ารวมสูงถึง 478.5 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เพิ่มขึ้นถึง 98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปอาจส่งผลลบต่อการส่งออกและการลงทุน แต่ผลกระทบดังกล่าวน่าจะผ่อนคลายลงจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย โดยประเทศไทยยังคงน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศสำหรับการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทโดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากประเทศไทยยังมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศและมีสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี อีกทั้งยังอยู่ในทำเลที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันโดยเฉพาะในขณะที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกำลังจะเกิดขึ้นด้วย ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                 คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TICON128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	     คงเดิมที่ A
TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	     คงเดิมที่ A
TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558	     คงเดิมที่ A
TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559	     คงเดิมที่ A
TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560	     คงเดิมที่ A
TICON177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560	     คงเดิมที่ A
TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561	     คงเดิมที่ A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560	 A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                  Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ