ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง” ที่ “A/Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday September 26, 2012 13:41 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงสถานะเครดิตที่เพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทเองอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นจากบริษัทแม่ คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกเชิงกลยุทธ์ในกลุ่มธุรกิจการเงินแบบ Solo Consolidation ของธนาคารสำหรับธุรกิจสินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “AA-“ ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าแนวทางธุรกิจของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งจะยังคงใกล้ชิดและเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์ธุรกิจของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาโดยบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคาร แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทที่จะดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลัก ตลอดจนสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ และดำรงค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะดำรงฐานทุนที่เพียงพอสำหรับรองรับความเสี่ยงของคุณภาพเครดิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน

ทริสเรทติ้งรายงานว่า อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าแบบ ลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรม ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งความสามารถในการขยายสินเชื่อและรักษาต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนจากการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณภาพเครดิตอ่อนแอกว่ากลุ่มลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจมากกว่า บริษัทยังคงมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้าแม้ว่าจะกระจายตัวมากขึ้น และทริสเรทติ้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของสินทรัพย์จากลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีก่อนอาจจะมีคุณภาพด้อยลงในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังมีฐานทุนที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการขยายสินเชื่อโดยใช้เงินจากการกู้ยืม

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ดำเนินนโยบายการเป็นธนาคารพาณิชย์แบบครบวงจรและกำหนดให้บริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งเป็นหน่วยงานเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2547 ในปี 2551 บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ซึ่งส่งผลให้บริษัทดำเนินธุรกิจใกล้ชิดและสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจของธนาคารโดยให้บริการสินเชื่อทั้งแก่ลูกค้าของธนาคารและลูกค้าอื่น ๆ การสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินจากธนาคารช่วยยกระดับสถานะทางการตลาดในธุรกิจหลักและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินให้แก่บริษัท ณ ปัจจุบัน เงินกู้ยืมทั้งหมดของบริษัทยกเว้นตั๋วแลกเงิน เป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กิจกรรรมการดำเนินงานของบริษัททั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้การติดตามดูแลและควบคุมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัทได้การสนับสนุนจากธนาคารในการพัฒนาระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมกับธุรกิจลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่กำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

สินเชื่อรวมของผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวน 11 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้งเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2554 เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำตลาด โดยสินเชื่อรวมคงค้างของผู้ประกอบการรายใหญ่ 11 รายในปี 2554 อยู่ที่ 57,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.7% จาก 43,038 ล้านบาทในปี 2553เทียบกับอัตราการเพิ่มขึ้น 8.7% ในปี 2553 ในบรรดาผู้ประกอบการทั้ง 11 ราย บริษัทมีสินเชื่อที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 ในปี 2550 บริษัทมีสินเชื่อที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 แต่ปรับลดลงมาเป็นอันดับ 2 ในปี 2551 อันเป็นผลจากการควบรวมกิจการของผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่นจำนวน 2 รายในปี 2551 อย่างไรก็ตาม บริษัทกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้งในปี 2554 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดคิดเป็น 25.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 23.7% ในปี 2553 อันเป็นผลมาจากการที่สินเชื่อของบริษัทมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

ในปี 2554 บริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับสุทธิที่ 449 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 17.1% จาก 384 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อรวมที่ระดับ 47.1% เป็น 14,992 ล้านบาทในปี 2554 จาก 10,194 ล้านบาทในปี 2553 ผู้บริหารของบริษัทมีความสามารถในการจัดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายแทนที่จะเสนอสินค้าทั่วไป ๆ เหมือนผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดเฉพาะที่ผู้ประกอบการรายอื่นยังเข้าไม่ถึง ทำให้สินเชื่อของบริษัทขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม บริษัทใช้เงินจากการกู้ยืมสำหรับการขยายสินเชื่อจำนวนมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเป็นหลัก ส่งผลให้อัตราส่วนโครงสร้างเงินทุนลดลง ซึ่งเห็นได้จากอัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมที่ลดลงจาก 18.5% ในปี 2550 เป็น 10.7% ในปี 2554

บริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งมีกำไรสุทธิ 458 ล้านบาทในปี 2554 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 105.8% จาก 223 ล้านบาทในปี 2553 อันเป็นผลมาจากธุรกิจของบริษัทที่ขยายตัวกับรายการพิเศษที่เกิดจากหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีซึ่งทำให้บริษัทสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายทางภาษีในปี 2554 หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทจะมีกำไรปกติที่ 323 ล้านบาท ซึ่งยังคงถือว่าเพิ่มขึ้น 44.8% จากปี 2553 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สุทธิจากเงินประกันการเช่า) ต่อเงินให้สินเชื่อรวม (สุทธิจากเงินประกันการเช่า) เพิ่มขึ้นเป็น 9.0% ณ สิ้นปี 2554 จาก 6.1% ในปี 2553 คุณภาพของสินทรัพย์ที่ด้อยลงเกิดจากผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ถึงแม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะปรับตัวดีขึ้นโดยอยู่ที่ระดับ 5.5% (งบยังไม่ได้ตรวจสอบ) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 แต่ความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินสำรองสำหรับหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 2.00% ในปี 2554 จาก 2.30% ในปี 2553 และ 2.34% ในปี 2552

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสที่จะมีความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกค้าเพิ่มขึ้นจากคุณภาพสินเชื่อที่ลดลงในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ การที่บริษัทเน้นลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเองยังส่งผลให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ บริษัทพยายามลดการกระจุกตัวของลูกค้าโดยการกระจายฐานลูกค้าให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการลดลงของสัดส่วนสินเชื่อของลูกค้ารายใหญ่ 10 รายแรกเมื่อเทียบกับสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ทั้งนี้ สัดส่วนสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ 10 รายแรกในปี 2554 ลดลงอย่างมากเหลือเพียง 23.4% จาก 40.0% ในปี 2551, 36.6% ในปี 2552 และ 30.9% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้ประโยชน์จากการมีต้นทุนดำเนินงานในระดับต่ำจากผลของการเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่โดยในปี 2554 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมลดลงมาอยู่ที่ 7.9% จาก 10.9% ในปี 2553 ซึ่งน้อยกว่าระดับ 20%-30% ของคู่แข่ง ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเมนท์ ลีสซิ่ง จำกัด (ADLC)
อันดับเครดิตองค์กร:	                     คงเดิมที่ A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                     Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ