บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้จะใช้เป็นเงินสำรองในการบริหารการเงินของบริษัท อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการเติบโตที่สม่ำเสมอของปริมาณการจราจรบนทางด่วน การมีกระแสเงินสดที่แน่นอน ประโยชน์จากการเป็นทางด่วนเพียงระบบเดียวที่เชื่อมต่อกับระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร และการมีคณะผู้บริหารที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐด้านระบบการขนส่งในอนาคต การแทรกแซงของรัฐในการปรับอัตราค่าผ่านทางด่วน และการลงทุนขนาดใหญ่ในสัมปทานทางด่วนใหม่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งได้ต่อเนื่องเพื่อที่จะสำรองเป็นสภาพคล่องเพื่อใช้ในการชำระหนี้ของบริษัท ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะระมัดระวังการจ่ายเงินปันผลและจัดการโครงสร้างเงินทุนของบริษัทโดยเฉพาะในช่วงการลงทุน เพื่อที่จะรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทเอาไว้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททางด่วนกรุงเทพเป็นผู้ก่อสร้างและบริหารโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 หรือโครงการทางพิเศษศรีรัชและโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) หรือทางด่วนส่วน C+ โดยได้รับสัมปทานในระบบ Build-Transfer-Operate (BTO) ระยะเวลา 30 ปีจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนต่อขยายของทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางด่วนส่วน C+ จะหมดอายุในปี 2563 ปี 2570 และปี 2569 ตามลำดับ ทางด่วนขั้นที่ 2 เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ซึ่งก่อสร้างและบริหารโครงการโดย กทพ. ก่อให้เกิดเส้นทางเชื่อมต่อจากใจกลางกรุงเทพฯ ไปยังทิศเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ เป็นโครงข่ายถนนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนเมื่อการจราจรบนถนนปกติในใจกลางกรุงเทพฯ และชานเมืองมีปัญหาติดขัด โดยบริษัทและ กทพ. มีการแบ่งรายได้ในเขตเมืองสำหรับทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนขั้นที่ 2 ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 เป็นต้นไป สัดส่วนการแบ่งรายได้ระหว่างบริษัทกับ กทพ. ได้เปลี่ยนจาก 50:50 เป็น 40% ให้แก่บริษัท และ 60% ให้แก่ กทพ. สำหรับในเขตนอกเมืองและทางด่วนส่วน C+ นั้นบริษัทไม่ต้องแบ่งรายได้กับ กทพ. การปรับสัดส่วนรายได้ดังกล่าวมีผลทำให้รายได้ค่าผ่านทางโดยเฉลี่ยต่อวันของบริษัทลดลง 6.4% ในขณะที่ปริมาณจราจรบนทางด่วนโดยเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 5.2% อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าผ่านทางโดยเฉลี่ยต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ได้กลับมาอยู่ที่ระดับเดิมก่อนมีการปรับสัดส่วนการแบ่งรายได้ที่ 20.9 ล้านบาท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ปริมาณการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7% ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา (2544-2554) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ปริมาณจราจรบนทางด่วนโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,076,559 เที่ยว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรในเขตนอกเมืองเป็นหลัก โดยเฉพาะ Sector D ทริสเรทติ้งคาดว่าในระยะปานกลางปริมาณจราจรบนทางด่วนจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอันเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยออกไปยังเขตปริมณฑล และการจราจรที่ติดขัดบนถนนปกติ
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 บริษัททางด่วนกรุงเทพมีรายได้ค่าผ่านทาง 3,809 ล้านบาท โดยมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และ 9% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการปรับตัวที่ดีขึ้นนี้เป็นผลมาจากปริมาณจราจรบนทางด่วนที่เพิ่มสูงขึ้น 5.8% โดยเฉพาะในเขตนอกเมือง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 78.5% เมื่อเทียบกับ 80.24% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนอันเป็นผลมาจากการปรับส่วนแบ่งรายได้ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าเบี้ยประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บค่าผ่านทาง กระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่งโดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 12.99% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าในระยะปานกลางความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทจะอ่อนแอลงจากปัจจุบัน โดยเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาทสำหรับโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้คาดว่าจะเป็นกระแสเงินสดภายในบริษัท เงินกู้จากธนาคาร และการออกหุ้นกู้ การก่อสร้างส่วนต่อขยายทางพิเศษมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2555 และจะแล้วเสร็จในปี 2559 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2558 ตามความคืบหน้าในการก่อสร้าง โดย ณ เดือนมิถุนายน 2555 ภาระหนี้ของบริษัท (ภาระหนี้หักด้วยเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น) อยู่ที่ 14,472 ล้านบาท ลดลงจาก 15,901 ล้านบาทในเดือนธันวาคม 2554 — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: BECL139A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A BECL13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A BECL144A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ A BECL148A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ A BECL153A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ A BECL214A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 คงเดิมที่ A หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html