ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต “บ. ทรูคอร์ปอเรชั่น”: องค์กรและหุ้นกู้มีประกันที่ “BBB”หุ้นกู้ไม่มีประกันที่ “BBB-” แนวโน้มเปลี่ยนเป็น “Negative” จาก "Stable"

ข่าวทั่วไป Monday October 1, 2012 13:31 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ที่ประกาศเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 นอกจากนี้ ยังปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” การปรับแนวโน้มสะท้อนถึงอัตราส่วนกำไรของบริษัทที่อ่อนแอลงจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการบริหารโครงข่ายและค่าใช้จ่ายในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สูงกว่าประมาณการ รวมถึงความเสี่ยงที่มากขึ้นในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จากความไม่แน่นอนในโครงสร้างต้นทุนจากสัมปทานที่ใกล้จะหมดอายุ และความสามารถของบริษัทในการปรับปรุงผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตลอดจนความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งการที่บริษัทมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ให้บริการภายใต้เทคโนโลยีที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก ตลอดจนความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมและคดีฟ้องร้องที่ยังไม่ถูกตัดสิน ความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนที่รวดเร็วในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมาก

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ซึ่งเปลี่ยนจาก “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนอัตราส่วนกำไรที่อ่อนแอลงและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนของโครงสร้างต้นทุนในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มอ่อนแอลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือความสามารถในการแข่งขันของบริษัทลดลงจากโครงสร้างต้นทุนที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับกลับมาที่ “Stable” หรือ “คงที่” หากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทสามารถรับประโยชน์จากการลงทุนกลับคืนมาอย่างมีนัยสำคัญและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวดีขึ้น

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้นำในการให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัททั้ง 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโครงข่ายสายสัญญาณ (Wireline) ซึ่งดำเนินงานโดยทรูออนไลน์ กลุ่มธุรกิจไร้สาย (Wireless) หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช ซึ่งดำเนินงานโดยทรูโมบาย และกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) โดยทรูวิชั่นส์ ในครึ่งแรกของปี 2555 ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 27% 62% และ 11% ตามลำดับ

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นมีสถานะทางธุรกิจที่เข้มแข็งในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากการมีเครือข่ายที่ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทยังสะท้อนถึงการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจะให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างเนื่อง

บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นได้ขยายการลงทุนในโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2554 โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 2 ล้านราย กลุ่มทรูโมบายมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เติบโตขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจบริการด้านข้อมูล (Non-voice) เติบโตถึง 71% จากความได้เปรียบในการเป็นผู้ให้บริการ 3จีรายแรก อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าต้นทุนด้านโครงข่ายและค่าใช้จ่ายในการเพิ่มผู้ใช้บริการนั้นปรับสูงขึ้นมากกว่าประมาณการอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงในระยะปานกลางหากบริษัทไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้ตามที่คาด

รายได้จากการให้บริการของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่นคาดว่าจะเติบโตที่ตัวเลขหนึ่งหลักในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยรายได้จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการด้านข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทปรับลดลงอย่างมากตั้งแต่ปี 2554 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ผลประกอบการจะไม่เป็นไปตามประมาณการก็อยู่ในระดับสูงเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนในการให้บริการในโครงข่าย 2จีเอาไว้ได้หลังจากที่สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) หมดอายุลงในปี 2556 นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนว่าบริษัทจะสามารถย้ายฐานลูกค้ามายังโครงข่ายที่มีต้นทุนต่ำลงและสามารถลดค่าใช้จ่ายในโครงข่าย 2จีได้อย่างเต็มที่ตามคาดไว้หรือไม่

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่นจะเพิ่มสูงสุดในปี 2556 มาอยู่ที่ 85% เนื่องจากบริษัทยังคงมีความต้องการเงินกู้เพื่อขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และโครงข่ายเคเบิลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.6 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2555-2558 ทั้งนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนในใบอนุญาต 3จี 2.1GHz ในกรณีดังกล่าว ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะเพิ่มภาระหนี้พร้อมกับการเพิ่มทุนเพื่อรักษาโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องไม่ให้อ่อนแอลงไปกว่าระดับปัจจุบัน ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                  คงเดิมที่ BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TRUE13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	      BBB-
TRUE144A: หุ้นกู้มีประกัน 6,183 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	      BBB
TRUE144B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557  	      BBB-
TRUE151A: หุ้นกู้มีประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558   	      BBB
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559   BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	Negative (ลบ) จาก Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ