ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & ตราสารหนี้ “บ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” ที่ “A-/Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday October 2, 2012 17:31 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัว งบดุลที่แข็งแกร่ง ผู้บริหารที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจยางธรรมชาติ และอนาคตที่สดใสในระยะยาวของยางธรรมชาติ ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและแนวโน้มความต้องการยางธรรมชาติที่ลดลงจากผลของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมได้เช่นเดิม โดยงบดุลและโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งของบริษัทนั้นเพียงพอที่จะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความผันผวนในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นผู้นำในการแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในตลาดโลก โดยมีโรงงานแปรรูป 19 แห่งในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและอีก 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 1,065,258 ตันต่อปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกสำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 อยู่ที่ 10.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในช่วงเดียวกันของปี 2554 จากการที่บริษัทดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ผันผวนขึ้นลงตามวัฐจักร บริษัทจึงมีความเสี่ยงจากการผันผวนของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน รวมทั้งการมีข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทานยางธรรมชาติ จึงทำให้ผู้บริหารสามารถบริหารกิจการของบริษัทผ่านวงจรธุรกิจทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงโดยยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีมียอดจำหน่ายยางแปรรูปทั้งสิ้น 483,416 ตัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 82% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรง แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมยางล้อเป็นส่วนใหญ่ แต่บริษัทก็มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ผลิตยางล้อขนาดกลางและขนาดเล็กด้วย บริษัทมียอดส่งออกคิดเป็น 83% ของปริมาณขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 โดยมีลูกค้าหลักคือประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 45% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 37% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 3 ประเทศคิดเป็น 72.7% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 2.66 ล้านตันในช่วง 3 เดือนแรกปี 2555 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 0.96 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (0.73 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.24 ล้านตัน) เมื่อพิจารณาในแง่ของการบริโภค ความต้องการยางธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจาก 7.56 ล้านตันในปี 2545 มาอยู่ที่ 10.92 ล้านตันในปี 2554 โดยประเทศจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของการบริโภคทั้งหมด ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกอยู่ที่ 2.55 ล้านตัน ลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของยอดผลิตรถยนต์และความต้องการยางล้อใหม่เพื่อมาทดแทนยางล้อเก่า อย่างไรก็ตาม ในระยะปานกลาง การบริโภคยางธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากการลดลงของความต้องการในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยการเติบโตจะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนำโดยประเทศจีนและอินเดีย ทั้งนี้ ความต้องการยางธรรมชาติจะเติบโตไปพร้อมกับความต้องการยางล้อซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากปริมาณการผลิตรถยนต์และจำนวนรถยนต์ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น

อุตสาหกรรมยางแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็นประมาณถึง 95%-98% ของต้นทุนการแปรรูป ผู้ประกอบการมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลทำให้กำไรและกระแสเงินสดมีแนวโน้มแปรปรวน เพื่อที่จะรักษาระดับกำไรให้คงที่ บริษัทมุ่งเน้นที่จะเพิ่มปริมาณขายโดยการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดเพื่อชดเชยกับอัตรากำไรที่ลดลงในช่วงที่สภาพตลาดยากลำบาก นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามซื้อขายโดยตรงกับผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกรเพื่อประเมินอุปสงค์และอุปทานในตลาดด้วย กระนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านราคาในช่วงที่ราคายางมีความผันผวนในระดับสูงไปได้ดังที่ปรากฎในช่วงครึ่งหลังของปี 2554จนถึงครึ่งแรกของปี 2555

ผลการดำเนินงานของบริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีในปี 2554 อ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้งได้ประมาณการไว้ โดยถึงแม้ว่าปริมาณขายจะเติบโต 13% มาอยู่ที่ 951,935 ตันในปี 2554 แต่กำไรก็ลดลงมาอยู่ที่ 1,306 ล้านบาท โดยลดลง 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคายางธรรมชาติมีการปรับลดลงอันเนื่องมาจากการลดลงของอุปสงค์จากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบจากมหาอุทกภัยในประเทศไทยเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 แรงกดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัทดำเนินต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปี 2555 โดยราคายางธรรมชาติปรับตัวลดลงกว่า 30% จากผลของวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศจีน อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา (ไม่รวมการกลับรายการของการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ) ลดลงมาอยู่ที่ 0.13% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เปรียบเทียบกับ 2.16% ในปี 2554 ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีความพร้อมในการรับมือกับวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรม บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแรงซึ่งเกิดจากความสำเร็จในการระดมทุนจำนวนมากในไตรมาสแรกของปี 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ปรับตัวดีขึ้นจาก 69% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 50% ในปี 2554 และมาอยู่ที่ 47% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ณ เดือนมิถุนายน 2555 ภาระหนี้ของบริษัทอยู่ที่ 15,021 ล้านบาท ลดลงจาก 18,034 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานที่ลดลงหลังจากที่ราคายางปรับตัวลดลง ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
อันดับเครดิตองค์กร:	                             คงเดิมที่ A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
STA14DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	คงเดิมที่ A-
STA16DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559	คงเดิมที่ A-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                            Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ