ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท “ธ. ธนชาต” ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday October 3, 2012 16:32 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทของ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารที่ระดับ “AA-” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน และหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “AA-”, “A+” และ “A” ตามลำดับด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นภายหลังการซื้อกิจการและความสำเร็จในการควบรวมกิจการกับ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดกลางที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และกระจายตัวมากกว่า อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความสามารถในการบริหารธุรกิจหลัก อันได้แก่สินเชื่อเช่าซื้อ ตลอดจนเครือข่ายธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และกลยุทธ์ที่เอื้อต่อการเพิ่มความแข็งแกร่งในการผสานธุรกิจของกลุ่มธนชาต นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังได้รับแรงหนุนจากสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จากประเทศแคนาดา คือ Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งถือหุ้นธนาคารในสัดส่วน 49% อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของธนาคารถูกลดทอนลงจากการมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Assets - NPAs) ในระดับสูง ตลอดจนการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงทั้งในธุรกิจธนาคารและธุรกิจหลักทรัพย์ นอกจากนี้ การเติบโตทางธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของกลุ่มธนชาตอาจถูกจำกัดด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนของทั้งสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลก

อันดับเครดิต “A” ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารธนชาต (TBANK197A และ TBANK247A) สะท้อนถึงความด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และสะสมผลตอบแทน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2562 และ 2567 ธนาคารสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้คืนทั้งจำนวนก่อนครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทนี้จะได้รับชำระเงินในลำดับถัดจากผู้ฝากเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ประเภทนี้ในกรณีที่ธนาคารมีผลขาดทุนในรอบบัญชีก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ยและธนาคารไม่มีการจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลา 6 เดือนก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม จำนวนดอกเบี้ยที่จ่ายคืนจะเป็นจำนวนดอกเบี้ยสะสม

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนบทบาทสำคัญของธนาคารธนชาตในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธนชาต โดยคาดว่าธนาคารจะมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการผสานพลังภายหลังการควบรวมกิจการ อีกทั้งจะสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ รายได้ที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ การบรรลุวิธีแก้ไขสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมทั้งการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจะส่งผลดีต่ออันดับเครดิตของธนาคาร

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 6 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 โดยมีส่วนแบ่งตลาดของสินเชื่อที่ 7.9% และเงินรับฝากที่ 6.8% ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 26% ด้วยยอดสินเชื่อ 328 พันล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2555 (รวมสินเชื่อของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) ธนาคารได้รับโอนกิจการธนาคารนครหลวงไทยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 ส่งผลให้มีสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในสินเชื่อธุรกิจ อีกทั้งมีการกระจายตัวของสินเชื่อไปสู่ธุรกิจทุกภาคส่วน และลดการกระจุกตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้งนี้ สัดส่วนสินเชื่อธุรกิจ ณ เดือนมิถุนายน 2555 คิดเป็น 36% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 22% ในปี 2552 ในขณะที่สินเชื่อรายย่อยคิดเป็นสัดส่วน 64% ลดลงจาก 78% เมื่อสิ้นปี 2552 นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ประโยชน์จากฐานลูกค้าเงินฝากและเครือข่ายสาขาจำนวนมากของธนาคารนครหลวงไทยซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตและสนับสนุนการให้บริการทางการเงินในกลุ่มธนชาตผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าเครือข่ายทางธุรกิจ (Franchise Value) ของธนาคารจะแข็งแกร่งขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอการพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการได้รับประโยชน์จากการผสานธุรกิจภายในกลุ่มต่อไป

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ฐานะการเงินของธนาคารธนชาตปี 2553 ดีขึ้นหลังการควบรวมกิจการ โดยมีกำไรสุทธิรวม 8.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 116% จากปีก่อน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (Return on Average Asset - ROAA) และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ย (Return on Average Equity - ROAE) ปี 2553 เท่ากับ 1.34% และ 17.51% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ระดับ 1.00% และ 16.48% ผลประกอบการในปี 2554 และงวดครึ่งปีแรกของปี 2555 ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงสอดคล้องกับการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งในช่วงเวลาภายหลังการรวมธุรกิจ กำไรสุทธิปี 2554 มีจำนวน 7.7 พันล้านบาท ลดลง 13% จากปีก่อน ROAA และ ROAE ลดลงมาที่ระดับ 0.87% และ 10.37% ตามลำดับ ธนาคารมีกำไรสุทธิงวดหกเดือนแรกของปี 2555 จำนวน 3.9 พันล้านบาท ลดลง 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ROAA และ ROAE (ยังไม่ได้ปรับเป็นรายปี) อยู่ที่ระดับ 0.43% และ 5.03% ตามลำดับ ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 0.53% และ 6.29% โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการของธนาคารจะดีขึ้นเป็นลำดับในระยะกลางภายหลังกระบวนการควบรวมกิจการแล้วเสร็จสมบูรณ์

ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารธนชาตมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-performing Loans - NPLs) และ NPAs (สินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างของสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และสินทรัพย์รอการขาย) เพิ่มขึ้นหลังการรวมกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อธุรกิจที่รับโอนมาจากธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารใช้ความพยายามในการแก้ไข NPLs ให้ดีขึ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 NPLs ของธนาคารคิดเป็น 5.04% ของเงินให้สินเชื่อรวม ลดลงจาก 6.06% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังอาจมี NPLs เพิ่มขึ้นได้อันเป็นผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทยในช่วงปลายปี 2554 ทั้งนี้ ความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงหลังการควบรวมกิจการยังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป

ธนาคารธนชาตมีแหล่งเงินทุนที่กระจายตัวดีขึ้นและมีโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่สอดคล้องกันมากขึ้นหลังการควบรวมกิจการ อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องของธนาคารลดลงจากการเติบโตของสินเชื่อที่สูงกว่าการขยายตัวของแหล่งเงินทุน อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 90.4% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 97.3% ในปี 2554 และ 101.0% ณ เดือนมิถุนายน 2555 ฐานเงินทุนแข็งแกร่งขึ้นหลังการเพิ่มทุนในปี 2553 จำนวน 35.8 พันล้านบาท โดย TCAP และ BNS ส่งผลให้อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจาก 6.4% ในปี 2552 เป็น 8.3% ในปี 2553 และ 8.5% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวม ณ เดือนมิถุนายน 2555 เท่ากับ 9.06% และ 13.32% ตามลำดับ ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง (ไม่รวมธนาคาร 4 แห่งที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) ที่ระดับ 10.39% และ 14.84% แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระดับ 4.25% และ 8.50% ตามลำดับ นอกจากนี้ ธนาคารมีเงินกองทุนและสำรองหนี้สูญเพื่อใช้รองรับความเสียหายจากหนี้เสียน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของระบบธนาคาร โดยมี NPAs คิดเป็น 0.7 เท่าของเงินกองทุนรวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.5 เท่า ณ เดือนมิถุนายน 2555 ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                                         คงเดิมที่ AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2556
- TBANK133A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,072.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	                     คงเดิมที่ AA-
TBANK155A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558	                     คงเดิมที่ A+
TBANK194A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	                     คงเดิมที่ A+
TBANK196A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	                     คงเดิมที่ A+
TBANK204A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563	                     คงเดิมที่ A+
TBANK227A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 8,497 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565	                     คงเดิมที่ A+
TBANK197A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	คงเดิมที่ A
TBANK247A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567	คงเดิมที่ A
หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565	                  A+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                                         Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ