ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท “ธ. ทิสโก้” ที่ระดับ “A-/Positive”

ข่าวทั่วไป Friday November 2, 2012 17:01 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.98% โดย บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารทิสโก้ที่ระดับ “A” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของธนาคารที่ระดับ “A” และ “A-” ตามลำดับด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Positive” หรือ “บวก” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร การมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี และการดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการมีสินทรัพย์คุณภาพดีและความสามารถในการรักษาระดับกำไรไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนลงจากเครือข่ายของธนาคารที่มีอยู่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ ตลอดจนระดับของสัดส่วนหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินเชื่อ นอกจากนี้ ธนาคารยังเผชิญภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจธนาคาร และความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก โดยปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการแข่งขันของธนาคารได้ในระยะยาว ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนความคาดหวังว่าธนาคารทิสโก้จะสามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และมีผลประกอบการที่ดีได้ในระยะกลาง แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอ ทั้งนี้ ความสามารถในการรักษาจุดแข็งของธนาคาร การมีฐานทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น และการรักษาเสถียรภาพของแหล่งเงินทุนไว้ได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคาร

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารทิสโก้ได้พัฒนาบุคลากรระดับผู้บริหาร โดยมีการบริหารงานด้วยความระมัดระวัง ส่งผลให้ธนาคารสามารถเติบโตในตลาดกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ธนาคารมีสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 10 จากธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 15 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 2.5% และเงินรับฝาก 1.0% ธนาคารขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตถึง 33% ในปี 2553, 24% ในปี 2554 และ 20% สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2555 ยอดสินเชื่อ ณ เดือนมิถุนายน 2555 มีจำนวน 203.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จาก 179.6 พันล้านบาทในปี 2554 โดยเพิ่มขึ้นทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย ธนาคารยังคงรักษาสถานะทางการแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อเอาไว้ได้ โดยเป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 จากจำนวน 17 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 13% ณ เดือนมีนาคม 2555

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผลประกอบการของธนาคารทิสโก้ปรับตัวดีขึ้น กำไรสุทธิในปี 2554 จำนวน 2,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1.36% และ 17.00% ตามลำดับในปี 2553 เป็น 1.41% และ 20.22% ในปี 2554 กำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2555 เท่ากับ 1,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน ผลประกอบการที่ดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายด้านเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงในปี 2554 จนถึงครึ่งปีแรกของปี 2555 จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงขึ้นจากการแข่งขันระดมเงินทุนอย่างมาก นอกจากนี้ ต้นทุนค่าธรรมเนียมจากฐานเงินฝากและตั๋วแลกเงินยังเพิ่มขึ้นจากการบังคับใช้เกณฑ์ใหม่ในปี 2555 ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธนาคารได้อีกด้วย

คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารทิสโก้ยังคงแข็งแกร่งจากการมีระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพทั้งสิ้น 2.4 พันล้านบาท ลดลงจาก 2.6 พันล้านบาทในปี 2551 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 2.52% ในปี 2551 มาอยู่ที่ 1.18% ในเดือนมิถุนายน 2555 โดยเป็นระดับต่ำที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของระบบที่ระดับ 3.37% ธนาคารดำรงเงินกองทุนและสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้อย่างเพียงพอ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ธนาคารมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ประกอบด้วยสินเชื่อจัดชั้นค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์สินรอการขาย) คิดเป็นเพียง 0.18 เท่าของเงินกองทุนซึ่งรวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และดีกว่าค่าเฉลี่ยของระบบที่ระดับ 0.47 เท่า

ด้านแหล่งเงินทุนและสภาพคล่อง ธนาคารทิสโก้มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระดับหนึ่ง โดยธนาคารยังคงพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากลูกค้ารายใหญ่ซึ่งอาจเกิดความผันผวนได้ง่ายกว่าเงินทุนที่ได้จากลูกค้ารายย่อย ในปี 2554 เงินทุนส่วนใหญ่ของธนาคารมาจากผู้ฝากเงินและผู้ให้กู้ยืมรายใหญ่ (เงินฝากหรือตั๋วแลกเงินที่มากกว่า 10 ล้านบาท) คิดเป็น 73% ของฐานเงินฝากรวมตั๋วแลกเงิน ซึ่งสภาพคล่องของธนาคารอาจอ่อนแอลงหากลูกค้ารายใหญ่หลายรายทำการเบิกถอนเงินในคราวเดียวกัน

เงินกองทุนของธนาคารทิสโก้ยังคงเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจและรองรับผลขาดทุนที่มิอาจคาดการณ์ได้ในระยะกลาง ธนาคารคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านเครดิตด้วยวิธี Internal Rating Based Approach (IRB) ภายใต้เกณฑ์ Basel II ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและเงินกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 9.40% และ 14.34% ตามลำดับ ลดลงจาก 9.88% และ 14.91% ในปี 2554 อันเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินเชื่อ อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของระบบที่ระดับ 11.35% และ 15.84% ตามลำดับ แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระดับ 4.25% และ 8.50% ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCOB)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                           คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงิน 20,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture
- TISCO133A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,324.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	        คงเดิมที่ A
- TISCO133B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	               คงเดิมที่ A
- TISCO134A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 503.9 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	               คงเดิมที่ A
TISCO192A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	        คงเดิมที่ A-
TISCO195A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562	        คงเดิมที่ A-
TISCO205A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563	        คงเดิมที่ A-
TISCO20DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563	        คงเดิมที่ A-
TISCO223A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565	        คงเดิมที่ A-
หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565	    A-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                          Positive (บวก)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ