ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกัน ยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยเช่นกันด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้เพื่อการลงทุนใหม่ โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความหลากหลายของธุรกิจ ตลอดจนสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง และคณะผู้บริหารที่มีความสามารถ นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการขยายตัวของธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การรับจ้างบริหารโรงแรมและธุรกิจอาหารแบบแฟรนไชส์ รวมถึงการขยายกิจการในต่างประเทศทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารบริการด่วนด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากนโยบายการเติบโตแบบเชิงรุกของบริษัท ตลอดจนลักษณะของธุรกิจโรงแรมที่ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขันที่รุนแรง และอัตรากำไรที่ต่ำของธุรกิจอาหารบริการด่วนและธุรกิจจัดจำหน่าย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นโดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมและทรัพย์สินของบริษัทที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาระหนี้อาจส่งผลในทางลบต่อคุณภาพเครดิตของบริษัท
บริษัทก่อตั้งในปี 2521 โดย Mr. William Ellwood Heinecke บริษัทดำเนินธุรกิจโฮลดิ้งโดยการถือหุ้นในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจโรงแรมและพัฒนาโครงการ 2) ธุรกิจอาหารบริการด่วน และ 3) ธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้า ประมาณ 40% ของรายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 มาจากธุรกิจอาหารบริการด่วน ส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม ธุรกิจจัดจำหน่าย และธุรกิจที่อยู่อาศัย คิดเป็น 39%, 10% และ 9% ตามลำดับ
ณ เดือนกันยายน 2555 บริษัทมีโรงแรมภายใต้การบริหารงานจำนวน 80 แห่งโดยมีจำนวนห้องมากกว่า 10,000 ห้อง ซึ่งโรงแรมของบริษัทตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำใน 9 ประเทศซึ่งครอบคลุมเขตเอเชียแปซิฟิก อัฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง จากจำนวนห้องภายใต้การบริหารงานทั้งหมดบางส่วนเป็นโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของและบางส่วนเป็นโรงแรมภายใต้การรับจ้างบริหารจัดการ รวมถึงโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ภายใต้การดำเนินงานโดย Oaks Hotel & Resorts Ltd. (Oaks) บริษัทบริหารและดำเนินงานโรงแรมเหล่านี้ภายใต้เครือโรงแรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก เช่น Mariott, Four Seasons และ St. Regis และภายใต้เครือโรงแรมของบริษัทเองคือ Anantara, Oaks, Elewana, Naladhu และ Avani
สำหรับธุรกิจอาหารบริการด่วนนั้น บริษัทดำเนินกิจการผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MFG) ซึ่งก่อตั้งในปี 2523 MFG เป็นผู้ดำเนินกิจการธุรกิจอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยเป็นเจ้าของและผู้ประกอบการอาหารบริการด่วนแบบแฟรนไชส์ของต่างประเทศจำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ “สเวนเซ่นส์” “ซิซซ์เล่อร์” “แดรี่ ควีน” และ “เบอร์เกอร์ คิง” รวมทั้งยังบริหาร “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” “เดอะค็อฟฟีคลับ” และ “ไทยเอ็กเพรส” ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าของบริษัทเองด้วย ณ เดือนกันยายน 2555 MFG มีร้านอาหารเปิดให้บริการรวม 726 แห่ง ตลอดจนร้านแฟรนไชส์และแฟรนไชส์ย่อยอีกประมาณ 578 แห่งใน 15 ประเทศ นอกจากนี้ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MINOR) ยังเป็นบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งของบริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และโรงงานรับจ้างผลิตสินค้าด้วย ปัจจุบัน MINOR เป็นผู้กระจายสินค้าต่าง ๆ ประมาณ 20 แบรนด์สินค้าผ่าน 226 ร้าน โดยมีแบรนด์สินค้าที่สำคัญ อาทิ Esprit, Gap, Bossini, Charles & Keith ฯลฯ
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 23,073 ล้านบาทเนื่องจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารบริการด่วนปรับตัวดีขึ้น โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ 8,441 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในส่วนของธุรกิจโรงแรมมีสาเหตุมาจากสภาวะความสงบเรียบร้อยทางการเมืองในประเทศไทย การควบรวมกับ Oaks และการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่คือ Anantara Kihavah ที่เกาะมัลดีฟส์ และ St. Regis ที่กรุงเทพฯ ในส่วนของธุรกิจอาหารบริการด่วนซึ่งพึ่งพิงตลาดภายในประเทศและมีความยืดหยุ่นต่อความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจมากกว่านั้น รายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทโดยรวมนั้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 15.7% ในปี 2554 เป็น 17.6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555
โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนตัวลง ในขณะที่สภาพคล่องยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยสภาพคล่องเมื่อวัดจากอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายปรับลดลงจาก 7.5 เท่าในปี 2553 มาอยู่ที่ 5.4 เท่าในปี 2554 แต่ก็ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.7 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ระดับประมาณ 17% ระหว่างปี 2553 และปี 2554 และอยู่ที่ระดับ 14.8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ส่วนภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 14,368 ล้านบาทในปี 2553 มาอยู่ที่ 19,824 ล้านบาทในปี 2554 และ 22,818 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เนื่องจากการซื้อกิจการของ Oaks และ โรงแรมบุณฑริกา อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 53.1% ในเดือนธันวาคม 2553 เป็น 59.1% ในเดือนธันวาคม 2554 แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 58.7% ณ เดือนกันยายน 2555 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทมีแผนสร้างความเติบโตจากการลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานและเงินกู้ใหม่บางส่วน ดังนั้นคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะลงทุนโดยใช้กระแสเงินสดภายในบางส่วนและสามารถบริหารจัดการโครงสร้างเงินทุนเพื่อไม่ให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนสูงมากจนเกินไป
อันดับเครดิตองค์กร: A อันดับเครดิตตราสารหนี้: MINT137A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A MINT149A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,060 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A MINT155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A MINT15DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A MINT17DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A MINT183A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A MINT18OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A MINT21OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A MINT178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A MINT228A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html