ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT หรือ ผู้ออกหุ้นกู้) ภายใต้โครงการ Medium-term Debenture มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ที่ระดับ “AAA” พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันภายใต้โครงการ Medium-term Debenture ในวงเงินรวม 40,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “AAA” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาทภายใต้โครงการ Short-term Debenture 1/2555 และ 2/2555 ที่ระดับ “T1+” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “stable” หรือ “คงที่”
หุ้นกู้ทั้งหมดของบริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ได้รับการค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (TMF หรือ ผู้ค้ำประกัน) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF, TFS, และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AA-” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aa3” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” จาก Standard & Poor’s และ “P-1” จาก Moody’s ด้วย อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นและระยะปานกลางของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement - CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper) อื่น ๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC จะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ทั้งนี้ ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซงหรือการกระทำต่าง ๆ โดยองค์กรใดใด ของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียน หรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้อยมาก
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายของ TLT คือ TMC ซึ่งมีสถานะที่เข้มแข็งในตลาดการค้าสำคัญแม้ว่าจะอ่อนตัวลงจากผลกระทบของปัญหาด้านคุณภาพสินค้ารถยนต์ รวมถึงเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ 2 เหตุการณ์ในปี 2554 โดยความเข้มแข็งดังกล่าวเกิดจากการขยายขอบเขตธุรกิจสู่ภูมิภาคต่าง ๆ และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ปัจจุบัน TMC ได้รับแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งจาก Standard & Poor’s และ Moody’s ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อผลประกอบการของ TMC รวมถึงความกังวลต่อการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดและสถานะทางการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตในปัจจุบันที่ระดับ “AA-” ซึ่งจัดโดย Standard & Poor’s และ “Aa3” โดย Moody’s ยังคงสะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC เมื่อเทียบกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ได้รับอันดับเครดิตในระดับ National Scale ที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง
ยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ของ TMC ในรอบปีบัญชี 2555 ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรอบปีบัญชี 2554 โดย TMC มียอดการผลิตรวมในรอบปีบัญชี 2555 ที่ 7.435 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.7% จาก 7.169 ล้านคันที่ผลิตได้ในรอบปีบัญชี 2554 ในขณะที่ยอดขายรวมในรอบปีบัญชี 2555 อยู่ที่ 7.352 ล้านคัน ใกล้เคียงกับยอดขายจำนวน 7.308 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2554 ยอดการผลิตและยอดขายของบริษัทฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556 โดยบริษัทมียอดการผลิต 4.400 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 43.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อนหน้า และมียอดขาย 4.516 ล้านคันเพิ่มขึ้น 49.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อนหน้า
กำไรจากการดำเนินงานของ TMC ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 75.4 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 2 ของรอบปีบัญชี 2555 (กรกฎาคม 2554 - กันยายน 2554) เป็น 149.6 พันล้านเยน และ 238.5 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของรอบปีบัญชี 2555 กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 353.1 พันล้านเยนในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2556 และลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 340.6 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 2 ของรอบปีบัญชี 2556 อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ระดับ 693.7 พันล้านเยนในครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556 เทียบจากขาดทุนจากการดำเนินงาน 32.6 พันล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชี 2555 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของ TMC ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปรับเพิ่มขึ้นจาก -0.4% สำหรับครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2555 และ 1.9% สำหรับรอบปีบัญชี 2555 เป็น 6.4% สำหรับครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556
TMC คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2556 เนื่องจากมียอดความต้องการคงค้างที่ยังไม่ได้ส่งมอบและบริษัทจะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกวางจำหน่าย ผลประกอบการทางด้านการเงินก็คาดว่าจะปรับดีขึ้นจากการลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินเยนยังคงกดดันผลประกอบการของบริษัท บริษัทมีสถานะทางการตลาดและการแข่งขันที่เข้มแข็งซึ่งได้รับแรงหนุนจากตลาดและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและกระจายตัวตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และความเสี่ยงทางการเงินในระดับต่ำ
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html