ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจซึ่งกระทบการลงทุนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการดำเนินงานของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าได้ต่อไป โดยสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิต รวมถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท
บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 95 แห่ง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 62 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 518,948 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงปี 2548-2553 รายได้หลักของบริษัท (65%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ 27% ของรายได้รวมมาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2548-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลดลงเหลือ 944 ล้านบาทในปี 2554 หรือ 47% ของรายได้รวม เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554
ณ เดือนสิงหาคม 2555 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.4%) กลุ่มผู้บริหารของบริษัท (7.4%) และกลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.4%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวในทำเลต่าง ๆ 10 แห่งและคลังสินค้าให้เช่าอีก 7 แห่ง รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนกันยายน 2555 บริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 58.0% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (15.4%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (12.7%) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (7.7%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (6.3%)
ในปี 2555 ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงงานให้เช่าของบริษัทอ่อนตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยช่วงปลายปี 2554 อัตราการย้ายออกของผู้เช่าในพื้นที่ดังกล่าวมีสัดส่วนที่สูง อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกับพื้นที่โรงงานให้เช่าในส่วนที่ไม่ได้รับผลจากอุทกภัยแล้ว พื้นที่โรงงานให้เช่าของบริษัทจะลดลงเพียง 5% เท่ากับ 367,940 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2555 จาก 387,515 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2554 ในทางตรงกันข้าม หากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายพื้นที่คลังสินค้าเข้า TLOGIS เท่ากับ 55,230 ตร.ม. ในปี 2554 และ 117,664 ตร.ม. ในปี 2555 ความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเติบโตอย่างมาก โดยพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเติบโต 44% จาก 260,582 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2554 เป็น 374,772 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2555 โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวม บริษัทมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นรวมสุทธิ 15% ในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ 94,615 ตร.ม. ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้าช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจโรงงานให้เช่าที่อ่อนตัวลง
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 1,680 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปี 2554 การลดลงของรายได้มีสาเหตุหลักมาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเท่ากับ 762 ล้านบาท ในขณะที่ TICON มีแผนจะขายสินทรัพย์จำนวนมากเข้ากองทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 อย่างไรก็ตาม รายได้จากค่าเช่าของบริษัทเพิ่มขึ้น 9% เป็น 768 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก 49% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เป็น 52% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีต้นทุนค่าซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์อุทกภัย โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นมาจากโครงสร้างรายได้ที่แตกต่างกัน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 รายได้ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการให้เช่าซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ภาระหนี้รวมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการขยายกิจการของบริษัท โดยเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 6,176 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 12,930 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 การเพิ่มขึ้นของภาระหนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการเงินทุนในการขยายกิจการของบริษัทเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันออก ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 68.4% ณ เดือนกันยายน 2555 จาก 52.5% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนดังกล่าวคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากบริษัทขายสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 3,570 ล้านบาทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และเพิ่มทุนประมาณ 965 ล้านบาทได้สำเร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555
อันดับเครดิตองค์กร: A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A TICON158A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A TICON229A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html