ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลางถึงสูง และแบรนด์สินค้าที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในตลาดทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากขนาดบริษัทที่ค่อนข้างเล็ก ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ผันผวน และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการเงินเอาไว้ได้ในระยะปานกลางต่อไป ยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรคาดว่าจะช่วยรักษาผลการดำเนินงานและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทในช่วงที่บริษัทมีการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการพร้อม ๆ กันเอาไว้ได้ สถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงได้รับแรงกดดันต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากการขยายธุรกิจเชิงรุกและการใช้เงินลงทุนจำนวนมากสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนราชดำริ อย่างไรก็ตาม บริษัทควรดำรงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนไม่ให้สูงเกินกว่า 65%
บริษัทอารียาก่อตั้งในปี 2543 โดยกลุ่มตระกูลเลาหพูนรังษี บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนเมษายน 2547 โดยมีนายวิศิษฏ์ เลาหพูนรังษีเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มเลาหพูนรังษีเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทมาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น ณ เดือนพฤษภาคม 2555 ที่ 65% บริษัทนำเสนอสินค้าที่อยู่อาศัยที่หลากหลายทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมซึ่งเน้นตลาดระดับราคาปานกลางถึงสูง โดยบ้านเดี่ยวมีราคาขายเฉลี่ยต่อหลังอยู่ที่ 7.3 ล้านบาท บ้านแฝดอยู่ที่ 2.7-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่ 2.5-7 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 37,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีโครงการเหลือขายทั้งหมด 24 โครงการ โดยมีมูลค่าเหลือขายทั้งสิ้นประมาณ 9,300 ล้านบาท จากมูลค่าเหลือขายทั้งหมดคิดเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 56% ทาวน์เฮ้าส์ 36% และบ้านเดี่ยว 8% บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้จำนวน 1,230 ล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียม
ผลการดำเนินงานของบริษัทผันผวนเนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่ค่อนข้างน้อยในแต่ละปี ยอดขายของบริษัททำสถิติสูงสุดที่ 3,515 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายของโครงการ A Space อโศก-รัชดา แล้วยอดขายกลับลดลงเป็น 1,300-1,800 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2551-2554 ในขณะที่ยอดขายในปี 2555 ดีขึ้นเป็น 2,502 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทเปิดโครงการใหม่หลายโครงการ รายได้ของบริษัทก็ผันผวนเช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้ 800-900 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2548-2551 ยอดโอนของคอนโดมิเนียมในโครงการ A Space อโศก-รัชดาทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3,436 ล้านบาทในปี 2552 และเป็น 3,334 ล้านบาทในปี 2553 จากนั้นรายได้ก็ลดลงเป็น 1,547 ล้านบาทในปี 2554 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น 15% เป็น 1,778 ล้านบาทในปี 2555 โดยรายได้ที่เติบโตขึ้นเป็นผลมาจากยอดโอนของคอนโดมิเนียมในโครงการ A Space สุขุมวิท 77 และทาวน์เฮ้าส์ในโครงการ The Colors Premium บางนา และ The Colors Premium 3 แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ความสามารถในการทำกำไรเป็นไปตามรายได้ของบริษัท โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานทำสถิติสูงสุดที่ 18%-21% ในช่วงปี 2552-2553 ก่อนจะลดลงเหลือ 9% ในปี 2554 และ 10% ในปี 2555
อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ระดับมากกว่า 50% มาโดยตลอด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 อัตราส่วนดังกล่าวเท่ากับ 62% (ไม่รวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าที่ดินตลอดอายุสัญญาเช่า) ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 52% ในปี 2553 และ 55% ในปี 2554 คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงสูงต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นกว่าในอดีต นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างด้วย ในช่วงปี 2554-2555 รายได้ของบริษัทอยู่ในระดับต่ำแต่ภาระหนี้อยู่ในระดับสูง จึงทำให้กระแสเงินสดของบริษัทอ่อนตัวลง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงเหลือ 2%-3% ในปี 2554 และปี 2555 จาก 26% ในปี 2552 และ 17% ในปี 2553
อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทจะได้รับแรงกดดันต่อไปในอนาคตเนื่องจากบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ราคาแพงบนถนนราชดำริ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 บริษัทได้รับสิทธิการเช่า 30 ปี (ไม่นับรวมระยะเวลาก่อสร้างอีก 4 ปี) จากสำนักงานพระคลังข้างที่เพื่อพัฒนาที่ดิน 5 ไร่บนถนนราชดำริ โดยที่ดินดังกล่าวเดิมเป็นที่ตั้งของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา บริษัทมีแผนพัฒนาที่ดินดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมหรู 52 ชั้น นอกจากนี้ บริษัทจะต้องก่อสร้างอาคาร 10 ชั้นเพื่อเป็นสำนักงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าวมีมูลค่าโครงการโดยประมาณถึง 9,000 ล้านบาทซึ่งมากกว่าโครงการอื่น ๆ ของบริษัทที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากสำหรับการพัฒนาโครงการนี้ จึงคาดว่าอาจมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังเน้นกลุ่มลูกค้าระดับรายได้สูงซึ่งอัตราการขายในกลุ่มลูกค้าดังกล่าวในปัจจุบันนั้นค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนเพิ่มทุนเพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการนี้ด้วย การเพิ่มทุนดังกล่าวคาดว่าน่าจะช่วยลดภาระการกู้ยืมเงินของบริษัท
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html