ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้บริการด้านเครือข่ายสื่อสารและการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับในโครงการภาครัฐ และการมีสัดส่วนรายได้ประจำในระดับปานกลางจากสัญญาให้บริการ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากความผันผวนของธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบ ตลอดจนความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าและโครงการ รวมทั้งภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันประมูลงานโครงการภาครัฐและดำเนินนโยบายทางการเงินที่รอบคอบด้วยการควบคุมให้มีสภาพคล่องที่เหมาะสมเมื่อรับงานโครงการขนาดใหญ่ ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทจะลดต่ำลงกว่าสถานะอันดับเครดิตในปัจจุบันหากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทสูงกว่า 60% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
บริษัทสามารถเทลคอมก่อตั้งในปี 2529 โดยกลุ่มตระกูลวิไลลักษณ์ บริษัทดำเนินธุรกิจติดตั้งโครงข่ายสื่อสารและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครบวงจร รวมทั้งให้บริการด้านโครงข่ายและระบบสื่อสาร ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 71% โดยบริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่นเป็นบริษัทที่ลงทุนในกิจการสื่อสารโทรคมนาคมและโครงข่าย รวมทั้งให้บริการด้านวิศวกรรม ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทมิได้จำกัดโดยอันดับเครดิตของบริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น แต่ก็มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันในระดับหนึ่ง
สถานะทางธุรกิจของบริษัทมีความเข้มแข็งซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำตลาดและผลงานที่ได้รับการยอมรับในโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากรายได้ที่สม่ำเสมอจากสัญญาให้บริการสื่อสารและซ่อมบำรุงรักษาด้วย บริษัทมีรายได้ในปี 2555 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนของรายได้จากสัญญาให้บริการจำนวน 2.4 พันล้านบาท
ความเสี่ยงของบริษัทมาจากผลประกอบการที่ผันผวนอันเกิดจากธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบที่มีขนาดมูลค่าโครงการแตกต่างกันอย่างมาก ในขณะที่การดำเนินงานก็มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและความไม่ต่อเนื่องในการจัดสรรงบประมาณด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของภาครัฐ นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงของการมีรายได้ที่กระจุกตัวด้วยเช่นกัน โดยรายได้ของบริษัทมาจากโครงการที่ว่าจ้างโดย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนใหญ่
ณ สิ้นปี 2555 มูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) ของบริษัทอยู่ที่ 9.7 พันล้านบาท โดยงานมูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2556 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ภายใต้ประมาณการพื้นฐานอยู่ที่ 1-1.6 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยประมาณการนี้ได้รวมรายได้จากโครงการ 3 จีระยะที่ 2 ของบริษัททีโอทีเอาไว้แล้ว
ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทจะยังคงได้รับแรงกดดันจากการรับงานโครงการขนาดใหญ่ต่อไปโดยเฉพาะโครงการ 3 จีระยะที่ 2 ของบริษัททีโอที อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ที่มีความกดดัน กำไรของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 16% โดยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีข้างหน้า
บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 70.9% เพิ่มขึ้นจาก 65.5% ในปี 2554 และ 48.6% ในปี 2553 ภาระหนี้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและเป็นระยะเวลาเกินกว่าประมาณการจากความล่าช้าในการรับรู้กระแสเงินสดในโครงการ 3 จีของบริษัททีโอทีและโครงการของ บริษัท พอร์ทัลเน็ท จำกัด ซึ่งความล่าช้าดังกล่าวทำให้มูลค่าเจ้าหนี้การค้าและรายได้ค้างรับของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาทในปี 2555 จาก 5.1 พันล้านบาทในปี 2554 และ 1.9 พันล้านบาทในปี 2553
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถลดมูลค่าเจ้าหนี้การค้าและรายได้ค้างรับได้อย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2556 ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 60% ในระยะปานกลาง ในกรณีที่บริษัทยังคงมีมูลค่าเจ้าหนี้การค้าและรายได้ค้างรับอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งมีแนวโน้มที่จะทบทวนสถานะทางธุรกิจของบริษัทใหม่เนื่องจากบริษัทอาจมีความเสี่ยงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้จากการรับงานโครงการขนาดใหญ่จากรัฐวิสาหกิจบางราย ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ไม่มีประกัน อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวมีโอกาสที่จะอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท 1 ขั้นเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนเงินกู้มีหลักประกันต่อสินทรัพย์ที่ 45% ณ สิ้นปี 2555
บริษัทมีอัตราส่วนทางการเงินด้านสภาพคล่องอ่อนแอลงในปี 2555 นอกจากนี้ แรงกดดันด้านสภาพคล่องยังเพิ่มสูงขึ้นจากภาระหนี้บางส่วนที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม แหล่งเงินทุนระยะสั้นของบริษัททั้งจากกระแสเงินสดภายในและจากการระดมทุนผ่านตลาดทุนน่าจะเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ดังกล่าว ณ สิ้นปี 2555 ภาระหนี้ของบริษัทที่จะครบกำหนดชำระในปี 2556 มีมูลค่าอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท โดยที่ 2.2 พันล้านบาทเป็นเงินกู้สำหรับโครงการที่มีความล่าช้าในการรับรู้กระแสเงินสด (โครงการ 3 จีของบริษัททีโอทีและโครงการของบริษัทพอร์ทัลเน็ท) และอีก 1 พันล้านบาทเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น ผู้บริหารของบริษัทรายงานว่าบริษัทจะสามารถเรียกรับชำระเงินสดจากโครงการที่ล่าช้าได้ทั้งหมดภายในปี 2556 ในระหว่างนั้น บริษัทวางแผนจะชำระคืนเงินกู้ด้วยการออกตราสารหนี้ระยะสั้นและเบิกใช้วงเงินที่ยังเหลือจากเงินกู้โครงการอื่นแทน อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทในระยะปานกลางคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 5 เท่า ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมน่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 20%
ทริสเรทติ้งมองแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศว่ามีเสถียรภาพซึ่งสะท้อนถึงความต้องการด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ยังมีอยู่สูงในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าทั้งภาครัฐและเอกชนจะยังคงเพิ่มการลงทุนด้านระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศมีพัฒนาการที่รวดเร็วซึ่งจะสร้างโอกาสการเติบโตให้แก่ธุรกิจจำนวนมากทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและธุรกิจบริการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html