ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานในตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางถึงต่ำ ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง และนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่ารายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ลดลงอย่างมากน่าจะเป็นเพียงภาวะชั่วคราว โดยรายได้ต่อปีของบริษัทน่าจะกลับคืนสู่ระดับปกติประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาทได้ในปี 2556 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทไม่ควรสูงกว่าในระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานไม่กลับคืนสู่ระดับปกติและมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
บริษัทมั่นคงเคหะการเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่มีประสบการณ์ยาวนาน บริษัทก่อตั้งในปี 2516 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2533 กลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 26% ณ เดือนสิงหาคม 2555 บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในระดับราคาเฉลี่ย 3.4 ล้านบาทต่อหลัง ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นอยู่ที่ 2.2 ล้านบาทต่อหลัง และทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นอยู่ที่ 3.8 ล้านบาทต่อหลัง ส่วนราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 1.15 ล้านบาทต่อยูนิต นอกจากนี้ บริษัทยังจัดสรรที่ดินเปล่าในราคาตารางวาละ 15,000-50,000 บาทด้วย ในปี 2555 รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการขายบ้านซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 86% ของรายได้รวม บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย ณ เดือนธันวาคม 2555 จำนวน 19 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขาย 4,000 ล้านบาท และมียอดขายที่รอการส่งมอบมูลค่าประมาณ 1,300 ล้านบาท ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความสามารถในการบริหารต้นทุนค่าก่อสร้างซึ่งทำให้บริษัทมีอัตรากำไรในระดับที่น่าพอใจ
ยอดขายของบริษัทในปี 2555 ลดลงอยู่ที่ 1,784 ล้านบาท โดยลดลง 14% จาก 2,076 ล้านบาทในปี 2554 การลดลงของยอดขายส่วนหนึ่งเป็นเพราะความกังวลในเรื่องปัญหาอุทกภัยในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 และการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการก่อสร้าง แม้ว่ารายได้รวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,724 ล้านบาทจาก 1,673 ล้านบาทในปี 2554 แต่ก็ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความล่าช้าของงานก่อสร้างในโครงการ “เด็น วิภาวดี” ซึ่งทำให้บริษัทต้องเลื่อนการโอนโครงการนี้จากภายในปี 2555 เป็นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556
อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงโดยอยู่ที่ 38%-40% ของรายได้ในช่วงปี 2553 ถึงปี 2555 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 18.44% ในปี 2555 จาก 19.62% ในปี 2554 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,768 ล้านบาท จาก 1,267 ล้านบาทในปี 2554 โดยผลประกอบการที่ลดลงและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ความเข้มแข็งของกระแสเงินสดของบริษัทลดลงในปี 2554 จนถึงปี 2555 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ 16.72% ในปี 2554 และ 15.75% ในปี 2555 โดยลดลงจาก 56.91% ในปี 2553 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 6.66 เท่าในปี 2554 และ 4.70 เท่าในปี 2555 ลดลงจาก 24.11 เท่าในปี 2553 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ประมาณ 1,000 ล้านบาทและมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนในระดับที่ต่ำ (26.10%) ณ สิ้นปี 2555 ทำให้สภาพคล่องของบริษัทยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html