ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการเติบโตที่สม่ำเสมอของปริมาณการจราจรบนทางด่วนของบริษัทซึ่งเป็นทางด่วนเพียงระบบเดียวที่เชื่อมต่อกับระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่แน่นอน และคณะผู้บริหารที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความไม่แน่นอนของนโยบายด้านระบบขนส่งในอนาคตและการแทรกแซงในการปรับอัตราค่าผ่านทางของภาครัฐ รวมทั้งการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในสัมปทานทางด่วนเส้นทางใหม่ ๆ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องและดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการลงทุน ทั้งนี้ การลงทุนกับบริษัทที่มีความสัมพันธ์กันหรือในโครงการใหม่ๆ ต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อที่จะรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินรวมถึงคุณภาพเครดิตของบริษัทเอาไว้
บริษัททางด่วนกรุงเทพเป็นผู้ก่อสร้างและบริหารทางด่วนขั้นที่ 2 หรือทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) หรือทางด่วนส่วน C+ โดยได้รับสัมปทานในระบบ Build-Transfer-Operate (BTO) ระยะเวลา 30 ปีจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนต่อขยายของทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางด่วนส่วน C+ จะหมดอายุในปี 2563 ปี 2570 และปี 2569 ตามลำดับ ทางด่วนขั้นที่ 2 นั้นเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ซึ่งก่อสร้างและบริหารโดย กทพ. ทางด่วนทั้ง 2 เส้นทางซึ่งเชื่อมโยงกันนี้จึงเป็นโครงข่ายถนนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนเมื่อการจราจรบนถนนปกติในใจกลางกรุงเทพฯ และชานเมืองมีปัญหาติดขัด บริษัทมีการแบ่งรายได้กับ กทพ. สำหรับทางด่วนในเขตเมืองคือทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน A และ B) ส่วนในเขตนอกเมืองคือส่วน C และ D รวมทั้งส่วน C+ ที่เป็นของบริษัทย่อยนั้นบริษัทจะได้รับรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 เป็นต้นไป สัดส่วนการแบ่งรายได้ระหว่างบริษัทกับ กทพ. ได้เปลี่ยนจาก 50:50 เป็น 40% ให้แก่บริษัท และ 60% ให้แก่ กทพ. การปรับสัดส่วนรายได้ดังกล่าวมีผลทำให้รายได้ค่าผ่านทางโดยเฉลี่ยต่อวันของบริษัทในปี 2554 ลดลง 6.4% แม้ปริมาณจราจรบนทางด่วนโดยเฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้น 5.2% ก็ตาม กระนั้น การเติบโตอย่างต่อเนื่องของปริมาณจราจรบนทางด่วนก็ส่งผลให้รายได้ค่าผ่านทางโดยเฉลี่ยต่อวันของบริษัทในปี 2555 กลับมาอยู่ที่ระดับเดิมก่อนที่จะมีการปรับสัดส่วนการแบ่งรายได้ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 21.1 ล้านบาทต่อวัน
บริษัทได้รับสัมปทานโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2555 สัญญาสัมปทานเป็นแบบระบบ BTO ระยะเวลา 30 ปีโดยมีระยะเวลาการก่อสร้างไม่เกิน 48 เดือน บริษัทจะได้รับรายได้ค่าผ่านทาง 100% และโครงการมีมูลค่าการลงทุน 25,491 ล้านบาท
ปริมาณการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1% ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ในปี 2555 ปริมาณจราจรบนทางด่วนโดยเฉลี่ยต่อวันปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอยู่ที่ 1,084,576 เที่ยวต่อวัน ปัจจัยหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรในเขตนอกเมืองเป็นสำคัญ ทริสเรทติ้งคาดว่าในระยะกลางปริมาณจราจรบนทางด่วนจะยังคงเติบโตได้อีกอันเป็นผลจากปัจจัยหลายประการ เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยไปยังเขตปริมณฑล
ในปี 2555 บริษัทมีรายได้ค่าผ่านทาง 7,732 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งการปรับตัวที่ดีขึ้นนี้สอดคล้องกับปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันบนทางด่วนที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตนอกเมือง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 78.81% ในปี 2555 เมื่อเทียบกับ 80.19% ในปี 2554 อันเป็นผลมาจากการปรับส่วนแบ่งรายได้และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าเบี้ยประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บค่าผ่านทาง
ในส่วนของฐานะการเงิน บริษัทมีภาระหนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 19,000 ล้านบาทในช่วงปี 2554-2555 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงจากระดับ 50.47% ในปี 2554 เป็น 46.80% ในปี 2555 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น กระแสเงินสดของบริษัทอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 4,603 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 4,795 ล้านบาทในปี 2555 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจึงเพิ่มขึ้นจาก 24.17% ในปี 2554 สู่ระดับ 25.23% ในปี 2555 อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะปานกลางอันเป็นผลจากการลงทุนในทางพิเศษส่วน B+ ที่บริษัทมีแผนการลงทุนโดยใช้เงินกู้ระยะยาวประมาณ 75% หรือ 19,000 ล้านบาทของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มการลงทุนใน บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) จาก 9.24% เป็น 20.24% ด้วย โดยการลงทุนเพิ่มคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,134 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนจำนวน 2,600 ล้านบาทในปี 2556 และจะทยอยจ่ายส่วนที่เหลือภายใน 2 ปีข้างหน้า
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html