ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. ทิสโก้” ที่ “A” และหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันที่ “A-”ด้วยแนวโน้ม “Stable” จาก "Positive"

ข่าวทั่วไป Tuesday April 30, 2013 13:04 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.98% โดย บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของธนาคารที่ระดับ “A-” นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” ด้วย โดยสะท้อนถึงสถานะด้านเงินทุนที่อ่อนแอลงจากสัดส่วนภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร รวมทั้งความสามารถในการดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และความสามารถในการรักษาระดับกำไรได้อย่างต่อเนื่อง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีและการมีสินทรัพย์คุณภาพดี อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินรับฝากขนาดเล็ก ตลอดจนเครือข่ายที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมทั้งต้นทุนทางการเงินและสัดส่วนของหนี้สินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและการเงิน โดยปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารในระยะยาวทั้งต่อความสามารถในการแข่งขันและการทำกำไร รวมไปถึงความมั่นคงด้านเงินกองทุน

แนวโน้มอันดับเครดิตที่เปลี่ยนแปลงเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนสถานะเงินทุนของธนาคารที่อ่อนแอลงจากระดับหนี้สินที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนความคาดหวังว่าธนาคารจะยังสามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์เอาไว้ได้ ตลอดจนรักษาคุณภาพของสินเชื่อที่ดี และมีผลประกอบการที่น่าพอใจ นอกจากนี้ ความท้าทายในเรื่องฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการรักษาเสถียรภาพของแหล่งเงินทุนไว้ได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสมจะยังคงส่งผลต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารด้วยเช่นกัน

กลุ่มทิสโก้มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 9 ในหมู่ธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งสิ้น 15 แห่งในปี 2555 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 2.7% และเงินรับฝาก 2.3% สินเชื่อของธนาคารเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 24% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 มีสินเชื่อทั้งสิ้น 238.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% คณะผู้บริหารช่วยทำให้ธนาคารเติบโตในตลาดกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีและสามารถรักษาสถานะทางการแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อไว้ได้ ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 จาก 17 แห่งในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 12% โดยมีสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2555 ทั้งสิ้น 154.6 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 29% โดยเพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยังเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในภาคการผลิตและการค้า รวมทั้งภาคสาธารณูปโภคและบริการ อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มธุรกิจของลูกค้าจะมีการกระจายตัวมากขึ้น แต่ธนาคารยังมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกหนี้รายใหญ่ โดยปริมาณเงินกองทุนของธนาคารอาจลดลงหากลูกหนี้เหล่านั้นประสบปัญหาด้านการเงิน

คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเนื่องจากมีระบบบริหารความเสี่ยงซึ่งช่วยควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 2.6 พันล้านบาทในปี 2551 เป็น 2.2 พันล้านบาทในปี 2554 อย่างไรก็ตาม สินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 พันล้านบาทในปี 2555 โดยเพิ่มขึ้น 25% ตามการขยายตัวของสินเชื่อและผลกระทบบางส่วนจากอุทกภัยในปลายปี 2554 กระนั้นก็ตาม อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 2.5% ในปี 2551 มาอยู่ที่ 1.2% ในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งธนาคารยังสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้อย่างเพียงพอ โดยมีปริมาณสำรองคิดเป็น 169% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2555

ฐานะทางการเงินของธนาคารยังคงเป็นที่น่าพอใจ โดยมีกำไรสุทธิในปี 2555 จำนวน 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จาก 2.6 พันล้านบาทในปี 2554 รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 55% ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 1% อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่รุนแรงขึ้น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงจาก 4.08% ในปี 2553 เป็น 3.02% ในปี 2554 และ 2.26% ในปี 2555 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินท่ามกลางการแข่งขันในตลาดเงินฝากในระดับสูง นอกจากนี้ ต้นทุนด้านเครดิตในปี 2555 ยังเพิ่มขึ้นถึง 47% จากปีก่อน แม้ว่าธนาคารจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้เป็นอย่างดี แต่กำไรก่อนภาษีเงินได้กลับลดลง 7% จาก 3.8 พันล้านบาทในปี 2554 เป็น 3.5 พันล้านบาทในปี 2555 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยในปี 2555 เท่ากับ 1.13% และ 19.01% ตามลำดับ ลดลงจาก 1.41% และ 20.22% ในปี 2554 ทั้งนี้ ธนาคารอาจขยายสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการเปิดรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าธนาคารจะสามารถควบคุมต้นทุนทางการเงินไว้ได้ในระยะกลาง

ในด้านแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องนั้น ธนาคารมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระดับหนึ่ง โดยยังคงใช้แหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดความผันผวนได้ง่ายกว่าเงินทุนจากลูกค้ารายย่อย แหล่งเงินทุนส่วนใหญ่ของธนาคารมาจากผู้ฝากเงินและผู้ให้กู้ยืมรายใหญ่ (เงินฝากหรือตั๋วแลกเงินที่มากกว่า 10 ล้านบาท) โดยในปี 2555 คิดเป็นสัดส่วน 84% ของฐานเงินฝากรวมตั๋วแลกเงิน เพิ่มขึ้นจาก 73% ในปี 2554 ทั้งนี้ สภาพคล่องของธนาคารอาจอ่อนแอลงหากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เบิกถอนเงินพร้อมกันในคราวเดียว

ระดับหนี้สินของธนาคารเพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 9.3% ในปี 2551 ลดลงเหลือ 5.5% ในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในระบบ อันเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อในเชิงรุกและการจ่ายเงินปันผลจำนวนมาก ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนการเพิ่มทุนตามโครงการออกใบแสดงสิทธิเพื่อการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่สามารถเปลี่ยนมือได้ (TSR) ของบริษัทแม่ซึ่งจะดำเนินการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะด้านเงินทุนหลังการเพิ่มทุนจะยังไม่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สัดส่วนเงินกองทุนอาจจะลดลงได้ต่อไปหากสินเชื่อยังคงเติบโตอย่างมากในระยะกลาง ธนาคารคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านเครดิตด้วยวิธี Internal Rating Based Approach (IRB) ภายใต้เกณฑ์ Basel II ซึ่งช่วยให้ระบบบริหารความเสี่ยงและบริหารจัดการเงินกองทุนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ในปี 2555 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 8.51% และ 12.79% ตามลำดับ ลดลงจาก 9.88% และ 14.91% ในปี 2554 แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 4.25% และ 8.50%

ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCOB)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TISCO192A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
TISCO195A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
TISCO205A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
TISCO20DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
TISCO223A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
TISCO22DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,243 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ