ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ระดับ “A/Stable”

ข่าวทั่วไป Friday May 3, 2013 16:41 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกันด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจซึ่งกระทบการลงทุนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการดำเนินงานของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าได้ต่อไป ถึงแม้ว่ามีความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก แต่การฟื้นตัวของภาคการผลิตในประเทศจะช่วยเพิ่มความต้องการพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่า

บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนมีนาคม 2556 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 106 หลัง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 70 หลังซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 565,308 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงปี 2550-2555 รายได้หลักของบริษัท (67%) มาจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ประมาณ 27% ของรายได้รวมมาจากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ในระหว่างปี 2550-2553 บริษัทมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจีสติคส์ (TLOGIS) ประมาณ 1,500-2,200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 บริษัทได้เลื่อนการขายสินทรัพย์ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นปี 2555 เป็นผลทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่ขายให้กับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2554 ลดลงเป็น 944 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 4,333 ล้านบาทในปี 2555

ณ เดือนมีนาคม 2556 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.2%) กลุ่มผู้บริหารของบริษัท (6.0%) และกลุ่มซิตี้เรียลตี้ (6.5%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ากระจายตัวในทำเลต่าง ๆ 10 แห่งและคลังสินค้าให้เช่าอีก 7 แห่ง รายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทและ TFUND มีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 57.7% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นเป็นอย่างมาก โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (16.5%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (12.3%) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (7.5%) บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (6.1%)

ในปี 2555 ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงงานให้เช่าของบริษัทอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยช่วงปลายปี 2554 หากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวม พื้นที่โรงงานให้เช่าของบริษัทลดลง 5% ในปี 2555 ในขณะที่พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเติบโต 44% ในช่วงเวลาเดียวกัน และหากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวม บริษัทมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นรวมสุทธิ 15% ในปี 2555 ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจคลังสินค้าช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจโรงงานให้เช่าที่อ่อนตัวลง

ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้น 8.9% จาก 518,948 ตร.ม. ณ สิ้นปี 2555 เป็น 565,308 ตร.ม. ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 โดยเป็นการเติบโตของพื้นที่โรงงานให้เช่า 10.8% และพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้น 7.0%

ในปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 5,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178% จาก 1,999 ล้านบาทในปี 2554 รายได้ค่าเช่าของบริษัทเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2554 แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นมากมาจากการขายสินทรัพย์จำนวนมากเข้ากองทุน รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนในปี 2555 เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าจาก 994 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 4,333 ล้านบาทในปี 2555 เนื่องจากการเลื่อนการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุนจากแผนเดิมปี 2554 มาเป็นปี 2555 อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์อุทกภัยช่วงปลายปี 2554 การเติบโตอย่างมากในส่วนของคลังสินค้าให้เช่าของบริษัทยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุน

บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจาก 972 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 2,326 ล้านบาทในปี 2555 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ลดลงจาก 48.6% ในปี 2554 เป็น 41.9% ในปี 2555 โดยอัตราส่วนที่ลดลงมาจากโครงสร้างรายได้ที่แตกต่างกัน บริษัทขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจำนวนมากในปี 2555 รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 78% ของรายได้รวมในปี 2555 จาก 47% ในปี 2554 และรายได้จากการให้เช่าซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนลดลงเท่ากับ 19% ของรายได้รวมในปี 2555 จาก 44% ในปี 2554

ในช่วงปี 2554-2555 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากเพื่อใช้ในการขยายกิจการของบริษัทเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศ ภาระเงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 6,176 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เป็น 10,600 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 อย่างไรก็ตามอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจาก 60.4% ณ สิ้นปี 2554 เป็น 57.3% ณ สิ้นปี 2555 เนื่องจากความสำเร็จในการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และการเพิ่มทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2555

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TICON141A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
TICON155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON158A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
TICON162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
TICON171A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
TICON187A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
TICON229A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2563 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ