ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท “บ. บ้านปู” ที่ระดับ “AA-/Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday June 27, 2013 09:51 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้เดิมและใช้สำหรับการลงทุน อันดับเครดิตสะท้อนความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนความหลากหลายของแหล่งถ่านหินและฐานลูกค้า รวมถึงรายได้เงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า อันดับเครดิตยังคำนึงถึงความสามารถของบริษัทในการปรับลดเงินลงทุนและลดต้นทุนในการดำเนินงานในภาวะที่อุตสาหกรรมถ่านหินชะลอตัวตลอดจนวินัยทางการเงินของบริษัท ทั้งนี้ ราคาถ่านหินที่อ่อนแอ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทบ้านปูจะยังคงรักษาวินัยทางการเงินและสภาพคล่องทางการเงินที่ดีไว้ได้ แผนการลดต้นทุนและความยืดหยุ่นในการปรับลดแผนลงทุนจะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวในภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมถ่านหินไว้ได้ ทั้งนี้ เงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยบรรเทาผลกระทบบางส่วนที่เกิดจากภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจถ่านหินที่มีความท้าทายมากขึ้นในปัจจุบัน

บริษัทบ้านปูเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานรายใหญ่ในเอเชียซึ่งก่อตั้งในปี 2526 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตถ่านหินในประเทศไทย บริษัทขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีแหล่งถ่านหินอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย จีน และมองโกเลีย ธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียยังคงเป็นแหล่งสร้างกำไรหลักของบริษัท โดยในปี 2555 กำไรจากธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียมีสัดส่วน 68% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) กำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียคิดเป็น 21% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรจากธุรกิจในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 8% ของ EBITDA และกำไรจากประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% ของ EBITDA เมื่อพิจารณาในด้านประเภทธุรกิจแล้ว กำไรจากธุรกิจถ่านหินในปี 2555 คิดเป็นสัดส่วน 91% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรส่วนที่เหลือในสัดส่วน 9% มาจากธุรกิจไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจถ่านหินคิดเป็นสัดส่วน 80% ของ EBITDA ขณะที่กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 20% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวลง

ในปี 2555 ปริมาณการผลิตถ่านหินของกลุ่มบ้านปู (ไม่รวมประเทศจีน) คิดเป็นจำนวน 43.1 ล้านตัน โดยประกอบด้วยถ่านหินที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย 28.5 ล้านตันและในประเทศออสเตรเลีย 14.6 ล้านตัน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 บริษัทผลิตถ่านหิน 10.0 ล้านตัน ณ เดือนมีนาคม 2556 ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียมีจำนวนรวม 801 ล้านตัน ในขณะที่ปริมาณสำรองถ่านหินคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ประมาณ 580 ล้านตัน ปริมาณสำรองของเหมืองอินโดนีเซียและออสเตรเลียดังกล่าวเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตราว 18 ปี

ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ผลการดำเนินงานของบริษัทยังถูกกดดันจากราคาถ่านหินที่ลดลง ราคาขายถ่านหินของเหมืองที่ประเทศอินโดนีเซียยังอ่อนแออยู่ระดับ 80.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจถ่านหินลดลงเป็น 29.1% เมื่อเทียบกับ 43.4% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 ราคาถ่านหินที่ปรับตัวลงและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากการย้ายเครื่องจักรที่เหมือง Mandalong ในประเทศออสเตรเลีย เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงในไตรมาสที่ 1 ปี 2556

ผลการดำเนินงานที่ดีของธุรกิจไฟฟ้ามีส่วนช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศจีนปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 โดยรายได้รวมของธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจไฟฟ้าปรับตัวดีขึ้นจาก 17.6% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 เป็น 28.7% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงถ่านหินลดลง ธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนมี EBITDA 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ที่มีผลขาดทุน สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศไทยบริษัทถือหุ้น 50% ใน บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP Power Ltd. -- BLCP) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินขนาด 1,434 เมกะวัตต์ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer -- IPP) BLCP นำส่งกำไรตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 เพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันแล้วบริษัทยังถือหุ้น 40% ในโครงการหงสา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าภายใต้โครงการ IPP ที่ตั้งอยู่ในประเทศลาว โครงการหงสาอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 49% และเฟสแรกของโครงการจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2558

แม้ว่าราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลงมากในปี 2555 แผนการลดต้นทุนและการฟื้นตัวของธุรกิจไฟฟ้าช่วยสนับสนุนความสามารถในการทำกำไร อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ในระดับ 14.9% EBITDA ของบริษัทลดลงเป็น 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 ลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA Interest Coverage Ratio) ลดลงเป็น 6.5 เท่าในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 จาก 10.6 เท่าในไตรมาสที่ 1 ปี 2555

แม้ว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลง อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับปานกลางที่ 44.8% ณ เดือนมีนาคม 2556 บริษัทได้ปรับแผนการลงทุนสำหรับการพัฒนาและการขยายกำลังการผลิตลงเป็น 1,248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ณ เดือนพฤษภาคม 2556 บริษัทได้ทำสัญญาขายถ่านหินคิดเป็นสัดส่วน 90% ของเป้าหมายปริมาณขายสำหรับปี 2556 โดยประมาณ 70% เป็นการขายที่กำหนดราคาคงที่ จากสมมติฐานราคาถ่านหินอ้างอิง Barlow Jonker Index ที่ระดับ 85-95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันและแผนการลดต้นทุน คาดว่า EBITDA ของบริษัทจะอยู่ระดับ 750-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ขณะที่บริษัทมีกำหนดการชำระหนี้คืนปีละ 350-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า กระแสเงินสดจากการดำเนินงานยังเพียงพอต่อแผนการลงทุน การจ่ายปันผลและการชำระหนี้ตามกำหนด บริษัทได้ทยอยซื้อหุ้นคืนตามโครงการที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 คาดว่าการซื้อหุ้นคืนตามโครงการจะใช้เงินประมาณ 4,000 ล้านบาท แผนการซื้อหุ้นคืนดังกล่าวจะทำให้อัตราส่วนการก่อหนี้เพิ่มขึ้นบางส่วนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนจะเป็นไปตามนโนบายโครงสร้างเงินทุนของบริษัท

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BP145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AA-
BP15NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AA-
BP165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AA-
BANPU184A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AA-
BANPU195A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AA-
BANPU214A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA-
BANPU225A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AA-
BANPU234A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AA-
BANPU264A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 AA-
BANPU234B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2566 AA-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2568 AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ