ทริสเรทติ้งปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็น “Positive” จาก “Stable” และคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของธนาคาร ที่ระดับ “AA-” และ “A+” ตามลำดับ หลังจากธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารที่จะเกิดขึ้น จาก GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) ในฐานะผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารในสัดส่วน 25.33% เป็น Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU) ในข้อตกลงการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ GECIH ถือครอง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะได้รับประโยชน์จากสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นและมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นหลังจากรวมกิจการกับ BTMU สาขากรุงเทพฯ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหาก BTMU สามารถถือหุ้น BAY ได้อย่างน้อย 50%
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ระบุว่า GECIH และ BTMU ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคาร โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนั้น BTMU จะเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด(ประมาณ 6,074 ล้านหุ้น) ของธนาคารโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer, VTO) ในราคาหุ้นละ 39 บาท และ GECIH จะขายหุ้นสามัญของธนาคารที่ถืออยู่ทั้งหมด (ประมาณ 1,538 ล้านหุ้น) ในราคาเดียวกับราคาเสนอซื้อที่กำหนดไว้ การดำเนินการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2556 และสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2556 อย่างไรก็ตาม กระบวนการ VTO จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานทางการที่กำกับดูแล รวมทั้งการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคารในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อหุ้น และการปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างกันอย่างครบถ้วนแล้ว
ภายหลังจากที่กระบวนการ VTO ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ BTMU จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่ของธนาคาร และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักอีกกลุ่มหนึ่งของธนาคาร หลังจากนั้น BTMU จะร่วมหารือกับธนาคารเกี่ยวกับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในอนาคตเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นพันธมิตรต่อไป รวมทั้งหารือเรื่องการโอนกิจการของ BTMU สาขากรุงเทพฯ มายังธนาคารเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะดำเนินการภายใต้ความเห็นชอบร่วมกันภายหลังจากกระบวนการ VTO สำเร็จเรียบร้อยแล้ว การโอนกิจการนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะทางธุรกิจและเสริมจุดแข็งในเชิงของการมีพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลอย่างลงตัวระหว่างสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อธุรกิจขนาดย่อมและกลาง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 โดย ณ เดือนมีนาคม 2556 มีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านสินทรัพย์ 8% เงินให้สินเชื่อ 9% และเงินรับฝาก 8% ในขณะที่สินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,103 พันล้านบาท สำหรับ BTMU ประกอบธุรกิจธนาคารภายใต้กลุ่ม Mitsubishi UFJ Financial Group Inc. (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยมีสถานะทางการเงินที่ดี อีกทั้งมีระบบบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอ และมีความเชื่อมโยงทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันภายในกลุ่ม สาขาเต็มรูปแบบของ BTMU ที่กรุงเทพฯ มีขนาดสินทรัพย์เกือบ 600 พันล้านบาท (ตามรายงาน ธ.พ. 1.1.) และมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านสินทรัพย์ 5% เงินให้สินเชื่อ 3% และเงินรับฝาก 2%
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html