ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ “บ. อีซี่ บาย” ที่ “BBB+" และคงแนวโน้ม "Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday August 29, 2013 16:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB+” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรสะท้อนถึงฐานเงินทุน ฐานะทางการเงิน และคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2551 ถึงครึ่งแรกของปี 2556 ซึ่งรวมถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงของกลุ่มลูกค้าที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจำกัดการเติบโตทางธุรกิจและการทำกำไรของบริษัท รวมถึงอาจทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทถดถอยลงในอนาคต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของบริษัทอีซี่ บายและหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทสะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ระมัดระวัง โดยบริษัทสามารถทำกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2553 จนถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตและอันดับเครดิตของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีและเงินทุนที่เข้มแข็งของบริษัทช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจและการดำเนินงานในอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค

อันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันสะท้อนถึงฐานะการเงินที่อ่อนแอลงของ ACOM Co., Ltd. บริษัทให้สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ของบริษัท ทั้งนี้ ฐานะการเงินของ ACOM อ่อนแอลงตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับรองรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และชำระคืนลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยไว้เกินตามผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบตามกฎหมาย “Money Lending Business Law” ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจน้อยลงก็ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของ ACOM ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันACOM ได้รับอันดับเครดิตจาก Standard & Poor’s (S&P) ที่ระดับ “BB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ตามเงื่อนไขสัญญาการค้ำประกันที่กำหนดภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแก่หุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าวอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้หากบริษัทอีซี่ บายไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ในกรณีที่บริษัทถูกฟ้องล้มละลายและมีการจ่ายคืนหนี้แก่ผู้ถือหุ้นกู้แต่หนี้นั้นถูกเรียกคืน ภาระการชำระหนี้ดังกล่าวจะตกเป็นของบริษัทผู้ค้ำประกันและจะมีผลในการชำระหนี้ทันที นอกจากนี้ หาก ACOM มีการควบรวมกิจการ บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการจะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย หาก ACOM ไม่สามารถจ่ายชำระได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมาย ณ ศาลพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ ภาระผูกพันของผู้ค้ำประกันภายใต้สัญญาการค้ำประกันนี้จะมีลำดับของสิทธิเรียกร้องเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกัน

แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สำหรับอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทอีซี่ บายสะท้อนถึงฐานะทางการเงินของ ACOM ที่เข้มแข็งขึ้นในปีงบประมาณ 2555 และแนวโน้มอุตสาหกรรมการให้สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ แรงกดดันต่อผลประกอบการทางการเงินก็ลดลงเนื่องจากแนวโน้มที่ลดลงของค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองทั้งสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการคืนเงินให้แก่ลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยไว้เกิน การทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้อาจมีการพิจารณาใหม่เมื่อทริสเรทติ้งเห็นการเปลี่ยนแปลงของการสนับสนุนที่ ACOM ได้รับจาก Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ฐานะทางการเงินของ ACOM ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 (เมษายน 2554 - มีนาคม 2555) สำหรับปีงบประมาณ 2556 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2556) ACOM รายงานผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 21 พันล้านเยนเนื่องจากการลดลงอย่างมากของการกันสำรองเพิ่มจากการที่ผู้กู้สามารถขอดอกเบี้ยที่จ่ายเกินคืนได้และการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แม้ว่าบริษัทจะมีพอร์ตสินเชื่อและอัตราผลตอบแทนลดลง แต่บริษัก็ยังสามารถรักษาระดับกำไรสุทธิที่ใกล้เคียงกับระดับในปีงบประมาณ 2555 ได้ บริษัทมีการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจการค้ำประกันสินเชื่อโดยการเป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่น จึงมีผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจค้ำประกันสินเชื่อต่อรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนไม่ถึง 5% ในปีงบประมาณ 2553 เป็น 13% ในปีงบประมาณ 2556

ณ เดือนมีนาคม 2556 สินเชื่อรวมของบริษัทอีซี่ บายมีจำนวน 84 พันล้านเยน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 9.5% ของสินเชื่อรวมของ ACOM บริษัท อีซี่ บายเป็นบริษัทย่อยแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ ACOM และมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับ ACOM ในการเป็นผู้ประกอบการให้สินเชื่อเพื่อการบริโภครายสำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ACOM ยังมีพันธะสัญญาที่เหนียวแน่นกับบริษัทในการให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและธุรกิจอันได้แก่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้ทางธุรกิจที่ใช้ในทางปฏิบัติด้วย

การมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยส่งผลให้บริษัทอีซี่ บายมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ในขณะที่การสนับสนุนทางการเงินและธุรกิจอย่างต่อเนื่องจาก ACOM เป็นปัจจัยช่วยส่งเสริมฐานะทางการตลาดและการเติบโตของบริษัทในอนาคต แม้ว่าลักษณะของธุรกิจจะมีการกระจายความเสี่ยงอยู่แล้วจากการปล่อยสินเชื่อต่อรายในจำนวนไม่มากให้แก่ลูกค้ารายย่อยจำนวนมาก แต่บริษัทก็ยังคงมีความเสี่ยงทางด้านเครดิตเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบเนื่องจากภาครัฐให้ความสำคัญในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคมากขึ้นด้วย

ตั้งแต่ปี 2551 คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อค้างชำระมากกว่า 3 เดือนต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 5.62% ในปี 2550 เป็น 2.08% ในปี 2555 และ 2.04% ณ เดือนมิถุนายน 2556 ในทางตรงข้าม สัดส่วนเฉลี่ยของอุตสาหกรรมกลับเพิ่มขึ้นเป็น 3% ณ เดือนธันวาคม 2555 และเดือนมิถุนายน 2556 จาก 2.75% ในปี 2554 เนื่องจากบริษัทได้ปรับฐานลูกค้าจากกลุ่มผู้ทำงานในโรงงานมาเป็นกลุ่มผู้ทำงานในสำนักงานตั้งแต่ปี 2552 จึงทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจเพียงบางส่วน บริษัทได้นำความรู้ในการดำเนินธุรกิจและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ จาก ACOM มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดของไทย ไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองการให้คะแนนความน่าเชื่อถือของลูกค้า (Credit Scoring) ที่ทันสมัย การบริหารร้านค้าเครือข่าย และฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมาตรฐานและขั้นตอนการติดตามจัดเก็บหนี้เพื่อใช้ควบคุมคุณภาพสินทรัพย์

บริษัทมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้นหลังปี 2550 จนเริ่มกลับมามีกำไร โดยในปี 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 310 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 326 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 925 ล้านบาทในปี 2553 และเป็น 1,310 ล้านบาทในปี 2554 สำหรับปี 2555 รายได้สุทธิทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 1,984 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 51% จากปี 2554 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จาก 1,010 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ การขยายจำนวนสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำลง

ในวันที่ 31 ตุลาคม 2555 บริษัทได้จัดสรรกำไรสะสมจำนวน 3,600 ล้านบาทให้แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของหุ้นปันผล ซึ่งมีผลให้เงินทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3,900 ล้านบาท จาก 300 ล้านบาท ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว บริษัทมีเงื่อนไขที่จะต้องดำรงเงินทุนให้เพียงพอ เพื่อให้หนี้สินของบริษัทมีสัดส่วนเท่ากับหรือไม่เกิน 7 เท่าของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจาก 5.70% ในปี 2550 เป็น 10.58% ในปี 2553 เป็น 14.56% ในปี 2554 เป็น 18.57% ในปี 2555 และเป็น 20.79% ณ เดือนมิถุนายน 2556 ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทก็ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน โดยเพิ่มจาก 14 เท่าในปี 2551 เป็นประมาณ 4 เท่าในปี 2555 ณ เดือนมิถุนายน 2556 อัตราส่วนดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.7 เท่า

บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) (EASY BUY)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
EB13DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB+
EB14DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB+
EB152A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB15DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB156A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,020 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB162A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
EB162B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
EB152B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 340 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB156B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 480 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
EB163A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ